ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » พุธ 01 ก.พ. 2012 10:40 am

เรื่องของลูกตอนนี้ก็คงเป็นการเพิ่มประสบการณ์ให้มากขึ้นครับ ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง จะไปไหนไกล หรือจะสมบุกสมบันมาก

ก็เป็นห่วงสุขภาพลูก (ช่วงนี้ก็ไม่สบายอยู่ กำลังคิดว่าจะทำยังไงดีเรื่องสุขภาพของลูกครับ รู้สึกว่าการไม่สบายทำให้เสีย

โอกาสในการเรียนรู้อะไรหลายๆอย่างไปครับ)


น้องแตมมีความเข้าใจโลกเพิ่มมากขึ้นครับ รู้จักคิด รู้จักพูดมากขึ้น บางครั้งคำพูดก็แฝงความตลกขบขัน อารมณ์ดีไว้ด้วยครับ

(ผมคิดว่าเป็นเพราะได้หลักในการเลี้ยงดูจากฟลอร์ไทม์ และได้การเลี้ยงดูจากแม่น้องแตมครับ) มีความมุ่งมั่น และสามารถยืน

ยันเจตจำนงของตนเองได้ชัดเจน แล้วก็ดื้อขึ้นมาก ซึ่งเป็นข้อดีในความคิดผมนะครับ คือ เมื่อลูกอยากเรียนรู้โลก ลูกก็จะได้ประสบ

การณ์มากขึ้นและเมื่อลูกมีความพยายามคิดแก้ไขปัญหาที่เจอ ก็ยิ่งได้โอกาสในการเรียนรู้และได้คิดเพิ่มยิ่งๆขึ้นไปอีกครับ โดยมีพ่อ

แม่คอยดูแลครับ


(เริ่ม เรื่องที่จะขอคำชี้แนะครับ)

ตอนนี้ได้น้องของน้องแตมพอจะเป็นคู่ซ้อมบางเรื่องได้บ้างแล้ว เช่น การเล่นของเล่นกัน มีแย่งของกันบ้าง ก็ถือว่าเป็นโอกาสของ

พ่อแม่ได้เริ่มสอนเรื่องทางสังคมและวินัยง่ายๆบ้าง (ไม่ละเมิดของๆผู้อื่นๆ) หรือบางทีก็แอบตีหัวน้อง (ทำร้ายร่างกายผู้อื่น) ก็ได้การ

ตอบสนองจากพ่อแม่ในการไม่ยอมรับวิธีการที่น้องแตมใช้ และบทลงโทษ (บางครั้งก็ไม่ได้ผลก็มีครับ คิดว่ายังไม่มีผลกับลูกมากก็เลยไม่

รู้สึกว่าลงโทษอยู่) เช่น แย่งของเล่นกัน แล้วน้องแตมก็ผลักน้องล้ม ได้ถามว่าทำไมต้องผลักน้อง น้องแตมบอกว่าเพราะน้องแย่งของเล่นหนู

ยังไงเราก็จะไม่ทำร้ายกันนะ น้องแตมทำร้ายคนอื่น มาม้าให้น้องแตมหยุดเล่นของเล่นชิ้นที่แย่งกัน 10 นาที (ชี้เข็มนาฬิกาให้ดู) ตอนแรกๆ

ก็ร้องโวยวายบ้าง (เดี๋ยวนี้จะใช้วิธีกรี้ดบ่อยครับ ก็ถามว่ากรี้ดทำไมเหรอ ลูกก็จะบอกครับเช่น ไม่ชอบที่ม่าม้าเอาของเล่นไป) แต่แม่ก็ยืนยัน

ว่าจะทำแบบนี้ เพราะน้องแตมทำร้ายคนอื่น สักพักน้องแตมก็หยุดโวยวาย ระหว่างที่น้องแตมรอคอยของเล่นอยู่ ก็จะคอยถามว่าถึงหรือยัง แล้วก็

นั่งเล่นของเล่นชิ้นอื่น พอครบเวลาก็ไปหยิบของเล่นชิ้นนั้นมาเล่นต่อ หรือบางครั้งก็จะไม่เล่นของชิ้นนั้นแล้ว (เล่นอย่างอื่นแทน) ในความรู้สึก

ผมมีสองประเด็นครับ คือ การทำโทษที่มีประสิทธิภาพคือแบบไหน และคิดว่าการลงโทษแบบนี้จะทำให้น้องแตมรู้สึกว่าน้องมาแย่ง มาแชร์

และทำให้ตนเองถูกลงโทษหรือเปล่าครับ เพราะช่วงนี้ น้องแตมมักจะบอกว่า เอาน้องออกไปจากห้องเลย ยกให้คนอื่นไปเลย เป็นต้นครับ

(ก็ยอมรับครับว่าคาดหวังเรื่องความรักของพี่กับน้อง ถึงแม้จะรู้ว่าลูกยังเล็กและเป็นธรรมดาที่จะต้องถูกแชร์ทุกอย่างกับตนเองครับ แต่ผมและ

แฟนก็พยายามให้ความรักอย่างเสมอภาคนะครับ เพื่อไม่ให้รู้สึกว่ารักน้องมากกว่าครับ)

รบกวนทุกๆท่านครับ และขออภัยนะครับที่พิมพ์เสียยาว


การเดินทางของครอบครัวผม ก็ยังคงต้องเดินทางกันต่อไปเรื่อยๆครับ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » พุธ 01 ก.พ. 2012 1:27 pm

การทำโทษที่ทรงประสิทธิภาพ คือ การแบ่งตัวเองเป็น 2 ภาค คือภาคหนักแน่น มั่นคง เป็นคนกำหนดโทษ

และอีกภาคหนึ่ง อ่อนโยน ปลอบใจ เห็นใจที่ลูกถูกทำโทษ ประเภท แย่เลย ต้องอดเล่น แย่เลยเนอะ (แบบทำเป็นลืมไปว่าตัวเองแหล่ะเป็นคำสั่งทำโทษ)

ใช้สองวิญญาณ แบบสม่ำเสมอ และจริงจังทั้งสองแบบค่ะ

ส่วนเรื่องไล่น้องออกจากห้อง

สิ่งที่คาดหวัง ไม่ใช่เรื่องพี่น้องรักกัน (ที่จริงเขาก็รักกัน แต่ไม่ใช่เวลานี้)

แต่คาดหวังว่า จะช่วยพัฒนาน้องแตมจนบอกออกมาได้ ว่าไม่ชอบน้อง โกรธน้อง อิจฉาน้อง เพราะอะไร อิจฉาแล้ว ทำไง ทนไม่ไหว ทำไงโกรธแล้วทำอย่างไรดี

ขอความรู้สึกตรงไปตรงมาก่อนค่ะ

เคยได้ยินเรื่องพี่น้องที่เป็นผู้ใหญ่แล้วแต่แสดงพฤติกรรมการอิจฉากันแบบไม่รู้ตัวไหมคะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย kroopob » จันทร์ 06 ก.พ. 2012 7:55 am

นอกจากมีท่าทีวินัยที่ชัดเจน และการดูแลอารมณ์ที่สมดุลแล้ว
การกำหนดโทษที่เหมมาะสมกับอายุก็สำคัญ
(การลงโทษบนหลักของ time out แบบที่ใช้อยู่นี้ ลองใช้ระยะเวลาตามหลัก 1 นาที ต่อ อายุ 1 ปี และทั้งหมดไม่เกิน 5 นาทีดูสิครับ)

แต่สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งคือ ลดการยั่วให้อิจฉาน้องโดยไม่จำเป็นออกไปนะครับ

เด็กจะไม่อิจฉาน้องถ้ามั่นใจใน 2 เรื่อง คือ
1 พ่อแม่ยังรัก
2 พ่อแม่ยุติธรรม

ทั้ง 2 เรื่องมีรายละเอียดปลีกย่อยที่อาจต้องทำความเข้าใจให้ถ่องแท้ คงได้คุยกันในโอกาสต่างๆ นะครับ

ถ้าในคิวของผมก็คงจะเป็น หัวข้อ "ฟลอร์ไทม์กับระเบียบวินัย"
หรืออาจจะในหัวข้อ "อารมณ์ฯ"
หรือแม้กระทั่งในวง"เก็บตกฯ" ก็คงได้มังครับ

เดือนไหนก็จำไม่ได้แล้ว ตามข่าวจากศาลายานะครับ
kroopob
 
โพสต์: 61
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 1:42 pm

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » พุธ 08 ก.พ. 2012 9:37 am

ขอบคุณทั้งสองท่านนะครับ

ผมจะนำไปปฏิบัติ และไปรับฟังข้อมูลดีๆอย่างแน่นอนครับ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » อาทิตย์ 01 เม.ย. 2012 11:21 pm

เมื่อเดือนก่อนผมมีปัญหาอย่างหนึ่งที่เกี่ยวกับเรื่องที่คุยกันเมื่อวันเสาร์ ก็คิดว่าจะไปฟังในการสนทนาเมื่อวันเสาร์ เรื่อง "เตรียมลูกก่อน

ขึ้นป.1" แต่พอถึงเวลาจริงๆ ผมดันป่วยซะ เลยอดไปเลย (กรรมบังจริงๆเลยยยย)


อยากให้เพื่อนๆหรือผู้ที่ร่วมสัมมนา และมีจิตอยากแบ่งปันช่วยบรรยายให้อ่านสักนิดนะครับ หรือความเห็นใดๆเกี่ยวกับเรื่องที่ได้ฟังมาก็ได้

ครับ ...


สำหรับผมได้คุยเรื่องนี้กับครูพบ เล่าเรื่องที่ตัวผมได้ประสบมาซึ่งเกี่ยวโยงกับเรื่องที่สนทนาในวันเสาร์ด้วย (แต่ต้องบอกว่าขณะที่เล่าให้ครูพบ

ฟัง ก็ยังมีอารมณ์ด้านลบ ทั้งโกรธ หงุดหงิด ผิดหวัง รวมกันอยู่ด้วยนะครับ) ครูพบพูดคำหนึ่งซึ่งสะกิดความรู้สึกผมในทันทีครับ คือคำนี้ครับ

"คุณพ่อหมายถึงสังคมในอุดมคติ(ยูโทเปีย)อยู่หรือเปล่าครับ" คำนี้ทำให้ผมคิดไปอีก 3 วันเลยครับ


แล้ววันนี้ได้ฟังเรื่องจากคุณแม่ท่านหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องของโรงเรียน ผมฟังแล้วมันจับใจ เห็นใจ เข้าใจเป็นอย่างมาก ซึ่งเรื่องนี้ก็โยงถึงสิ่งที่ผม

ได้ประสบมาเช่นกัน ผมกำลังคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาครับ....ความสมบูรณ์แบบมีอยู่จริงหรือ?


บางคนที่พยายามทำทุกอย่างให้สมบูรณ์แบบ (ซึ่งหมายถึงตัวผมด้วย) ยิ่งพยายามทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบ ก็จะยิ่งทุกข์มากเป็นเงาตามกัน

แต่หากยอมรับในความจริงที่ว่า "ไม่มีสิ่งใดที่สมบูรณ์ไปทั้งหมด" ก็จะค้นพบว่า "ความสมบูรณ์(ความสุข)นั้นจะเกิดภายในจิตใจของผู้นั้นเอง"

รวมทั้งเรื่องโรงเรียนของลูกด้วยเช่นกันครับ หากจะหวังให้เป็นดังใจได้ทุกประการคงไม่มี แต่สิ่งที่ต้องทำก็คือ "เตรียมให้ลูกของเรามีความ

พร้อมให้มากที่สุด" เมื่อได้ทำเต็มกำลังแล้ว ก็คงถึงเวลาที่จะต้องยอมรับความจริงที่ว่า "ไม่มีสิ่งใดที่สมบูรณ์ไปทั้งหมด" แล้วหล่ะครับ ...


แต่ก่อนที่จะถึงเวลานั้นก็ขอให้ได้ทำให้เต็มกำลัง ให้สุดความสามารถของเราก่อนแล้วกันครับ ...


ถึงจะรับรู้และได้คิดว่า "ความสมบูรณ์ในโลกนั้นไม่มี" แต่ก็ยังไม่ซาบซึ้งถึงใจลึกๆอยู่ดีครับ เพราะบ่อยครั้งผมก็ยังวิ่งเข้าไปหาความสมบูรณ์แบบ

อยู่ร่ำไป คงต้องเป็นอย่างที่อาจารย์ฯบอกกระมังครับ "คิดได้เมื่อไหร่ ก็เมื่อนั้น" จริงๆครับ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » จันทร์ 02 เม.ย. 2012 7:15 am

พระท่านว่า เรามีหน้าที่ประกอบเหตุ ผลจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งที่รู้ และทั้งที่ไม่รู้ ทั้งที่มองเห็น และที่มองไม่เห็น

ทั้งที่แก้ได้ และแก้ไม่ได้

ลงมือทำอย่างสุดกำลัง โดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น จากนั้นต้องปล่อยวางค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย กิ่งแก้ว เมื่อ จันทร์ 02 เม.ย. 2012 12:36 pm, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 02 เม.ย. 2012 9:14 am

ได้ไปฟังมาค่ะ เพราะคิดว่าตรงและเหมาะกับปัจจุบันขณะของตัวเองมากที่สุด ลูกกำลังจะขึ้น ป.1 พอดี เลยตัดสินใจว่าต้องไปให้ได้ ขนาดให้พ่อของลูกเปลี่ยนวันทำงาน (แลกเวรกับเพื่อน) กันเลยทีเดียว ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งหวังอะไรมากค่ะ จะพูดว่าไม่ตั้งหวังก็ไม่ได้ ไม่งั้นคงไม่ไปเนอะ คืออยากไปฟังอยากรู้ว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง เพราะจริงๆ ก็มีสิ่งที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่แล้วในใจ แต่อยากรู้ว่าแม่ๆ ที่เจอมาแล้วเขาปฏิบัติตนปฏิบัติใจอย่างไร จะได้กลับมาเตรียมตัวเตรียมใจรับมือบ้างค่ะ ประมาณว่าขอประสบการณ์จากรุ่นพี่น่ะค่ะ
พอได้ไปก็สุขใจค่ะ จริงๆ ก็ต้องบอกว่าสุขใจทุกครั้งที่มีการตั้งวงสนทนาแบบนี้นะคะ เพราะรู้สึกว่าทุกคนเป็นมิตร แบ่งปันประสบการณ์ อบอุ่น ทุกคนจริงใจช่วยเหลือ เต็มตื้นจริงๆ ค่ะ เหมือนมีสังคมอีกสังคมหนึ่งที่ค่อนข้างสะอาด และเข้าใจกันจริงๆ สุขใจค่ะ ยังแอบหวังว่าจะได้พบคุณพ่อเลยค่ะ แต่คิดว่าน้องอาจจะยังไม่ถึงวัยและอาจยุ่งกับน้องเล็กเลยไม่ได้มา
ที่ไปวันนั้นก็มีคุณพ่อคุณแม่หลายท่านค่ะมาแบ่งปันประสบการณ์ แต่ละท่านสุดยอดจริงๆ ค่ะ อยากลุกขึ้นปรบมือให้ดังๆ เลยค่ะ และที่ประทับอีกอย่างคือ แม้แต่คุณแม่ต้นแบบบางท่านก็มาทั้งแบ่งปันประสบการณ์และขอให้ท่านอื่นช่วยคิดสำหรับปัญหาที่ท่านเองประสบมา สิ่งเหล่านี้ทำให้ดิฉันย้ำตัวเองลงไปอีกค่ะว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ไม่มีใครเก่งที่สุด ไม่มีใครรู้ทุกอย่าง คนเราสามารถจะรู้ได้และไม่รู้ก็ได้ และไม่อายหรือกระดากที่จะไม่รู้ สำหรับคนอื่นอาจจะไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญนะคะ แต่ดิฉันคิดว่าดิฉันได้เข้าใจคำๆ นี้จริงๆ มากยิ่งขึ้นค่ะ ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่นมากๆ เลยค่ะ ทุกๆ คนช่วยกันคิดช่วยกันออกความเห็น มาแบ่งปันกัน สุดยอดค่ะ
พรรณนาความรู้สึกมากันเยอะนะคะ คราวนี้มาถึงองค์ความรู้ที่ดิฉันกลั่นออกมาบ้าง อาจจะไม่สมบูรณ์ครบถ้วนเท่าการเข้ารับฟังเองนะคะ แต่ก็เป็นมุมของดิฉันเองค่ะ ความรู้ในวันนั้นที่ดิฉันได้ก็ตอกย้ำกับสิ่งที่เคยได้ศึกษา ได้เข้าอบรมกับคุณหมอ ได้เข้าร่วมกลุ่มสัมมนาทั้งหลายแหละค่ะ ว่า ”ถ้าพัฒนาการทั้งหลายนั้นเต็มขั้น เรื่องเรียนก็เรื่องเล็กค่ะ” และดิฉันก็เชื่อค่ะว่ามันเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วจะทำอย่างไรให้เต็มขั้นคะ นั่นแหละค่ะ เป็นสิ่งที่ดิฉันพยายามค้นหา ทำตาม ประเมินผล และค้นหา ทำตาม และประเมินผล ขั้นตอนดูเหมือนง่ายๆ นะคะ ก็ทำง่ายๆ อย่างนี้แหละค่ะ แต่พอทำการประเมินโดยดูภาพรวมๆ แล้วก็จะเห็นค่ะว่ายังมีตรงไหนที่เรายังไม่ได้ให้ความสำคัญกับมันมาก หรือยังพร่องกันอยู่ ก็ใส่กันไปค่ะ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล ดิฉันมองว่าเป็นกระบวนการพัฒนาการของพ่อแม่ล้วนๆ ค่ะ ไม่เกี่ยวอะไรกับลูกเลย พ่อแม่ทั้งนั้นที่ต้องทำความเข้าใจลูก และรู้ว่าถ้าลูกมีลักษณะแบบนี้ต้องปฏิบัติกับลูกอย่างไร อันนี้ถือเป็นหัวใจเลยค่ะ เข้าใจลูก รู้จักลูก ก็จัดการกับต้นเหตุแห่งปัญหาได้ตรงจุด แต่นี่แหละค่ะ ยากสุดๆ ดิฉันใช้เวลามา 2 ปีกว่ายังเข้าใจลูกไม่หมดเลยค่ะ แต่ก็ไม่หยุดค่ะ ทำกันไปเรื่อยๆ จะว่าไปกระบวนการเหล่านี้ใช้เวลาทั้งนั้นเลยค่ะ
อ้อ ในวันนั้นเหมือนไม่มีใครให้ความสำคัญกับเกรดหรือคะแนนที่ลูกได้รับเลยค่ะ (แต่ดิฉันเชื่อว่าน้องทุกคนน่าจะเก่งทีเดียว) ทุกคนให้ความสำคัญแต่เรื่องอารมณ์ สัมพันธภาพ ความคิด และการฝึกอย่างเป็นระบบในเรื่องของ SI กันทั้งนั้นเลยค่ะ ทำให้ตระหนักรู้อีกอย่างว่านี้คือลักษณะของครอบครัวฟลอร์ไทม์จริงๆ ค่ะ ครอบครัวที่ให้ความสำคัญแต่เรื่องของการดำรงชีวิตอยู่อย่างเป็นสุข พอใจในสิ่งที่ตนเองมีและทำสิ่งนั้นให้ดีที่สุดค่ะ มีอยู่บ้างบางท่านที่ได้คุยกันนอกรอบและได้ระบายให้กันทราบว่าท่านกำลังอยู่ในช่วงกำลังกลุ้มใจในเรื่องราวทั้งหลายที่ผ่านเข้ามา และดิฉันก็ได้แต่บอกแบบขำๆ ค่ะว่าอีก 2 สัปดาห์ก็หาย อันนี้เอาประสบการณ์ตัวเองเป็นที่ตั้งค่ะ เพราะนี่ก็เป็นอีกสิ่งที่ดิฉันเรียนรู้ชัดเจนขึ้นในวันนั้น หลังจากที่ก็อุ่นๆ อยู่ในใจมาสักพัก ว่าคนเราก็ต้องเรียนรู้ ต้องพลาด ต้องเสียใจ แล้วเราก็จะเรียนรู้อีก และพลาดอีก และเสียใจอีก แต่ระยะเวลาจะสั้นลงเรื่อยๆ ใจจะแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ก็คงเหมือนลูกนะคะ ที่เขาเองก็ต้องเรียนรู้ ต้องพลาดและต้องเสียใจพัฒนาการหล่น แต่เราก็จะให้โอกาสเขาเรียนรู้ขึ้นไปอีก อาจจะพลาดอีก พัฒนาการหล่นอีก ก็เอาใหม่ วันหนึ่งเขาก็คงจะใช้เวลาอยู่กับมันน้อยลงเรื่อยๆ พร้อมๆ กับคิดได้มากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเรานะคะ
คุณแม่ต้นแบบท่านหนึ่งเน้นย้ำนะคะว่าเรื่องของ SI นี่ขาดไม่ได้กันเลยจริงๆ สำหรับประสบการณ์ของดิฉันเองก็เห็นตรงกันเช่นนั้นค่ะ เพียงแต่ว่าหากมีความเข้าใจฟลอร์ไทม์จริงๆ แล้วเนี่ยจะช่วยนำมาประยุกต์ร่วมกันได้เป็นอย่างดีค่ะ และยังสามารถนำ SI มาเป็นทั้งตัวเสริม ตัวขับพัฒนาการของลูกด้วยนะคะ ดิฉันอาจจะไม่เก่งในเรื่องให้ความละเอียดนะคะ อาจเห็นได้แต่ภาพรวม ยังไงรอคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นที่ไปเข้าร่วมมาแชร์ให้ฟังนะคะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » จันทร์ 02 เม.ย. 2012 12:36 pm

จพเริ่มทยอยโพสต์บทความที่ถอดเทปจากวันเสาร์นะคะ

คงไม่ได้อารมณ์เท่าวันจริง แต่คงพอแก้ขัดได้ค่ะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 02 เม.ย. 2012 1:31 pm

ขอบคุณ คุณ krongkan และอาจารย์ฯมากครับ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย krongkan » อังคาร 03 เม.ย. 2012 9:01 am

อ้อ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา มีอีก 2-3 ประเด็นค่ะที่คุณพ่อคุณแม่ต้นแบบช่วยกันแชร์ถึงความสำคัญค่ะ คือเรื่องการพยายามผูกมิตรกับพ่อแม่เพื่อน
และทำตัวเป็นเพื่อนร่วมแก๊งค์ของเพื่อนๆ ลูกให้ได้ หลายท่านกรุณาบอกเล่าประสบการณ์ในการเปิดบ้านให้เป็นสนามเด็กเล่น การพยายาม
หาทางตั้งแก๊งค์เล่นฟุตบอล และอีกมากมาย ซึ่งเมื่อคิดย้อนก็พบว่าตัวเองก็เป็นเช่นนั้น นี่เองคงเป็นลักษณะอีกอย่างที่สำคัญของพ่อแม่ FT นะคะ
เพราะจากการหล่อหลอม พวกเราจึงเห็นประโยชน์จากการรวมกลุ่มเล่นของเด็กๆ จริงๆ ทุกวันนี้ถ้ามีโอกาสดิฉันจะต้องออกเกณฑ์เด็กๆ มาเล่น
ที่บ้าน มาเลี้ยงให้ กินข้าวดูแลกันจนเย็นย่ำค่ำมืด เพื่อนบ้านแซวเล่นว่า ลูก 3 คนยังเหนื่อยไม่พอใช่ไหม ก็ได้แต่ตอบติดตลกไปค่ะว่าพลังงานยังเหลือ
อยากมีลูกเพิ่มอีกสัก 2 คน ก็เรียกเสียงหัวเราะกันไป แต่ใครจะรู้คะว่าในใจของเรานั้นหัวเราะดังยิ่งกว่า เขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เราได้นั้นยิ่งใหญ่กว่าจนเทียบ
ไม่ได้กับสิ่งที่เราเสียไปเลยจริงๆ ขอบคุณ FT จริงๆ ค่ะ
ที่ลืมไม่ได้อีกอย่างคือ เอกสารประกอบการสัมมนาค่ะ ทั้งความรู้ที่คุณหมอแก้วตาและทีมงานกรุณารวบรวมมาให้ มีประโยชน์มากจริงๆ ค่ะ และที่สำคัญ
ประสบการณ์ของคุณพ่อคุณแม่ที่กรุณาเขียนมาให้อ่านกันน่ะค่ะ สุดยอดคัมภีร์เลยทีเดียว ทุกๆ ท่านเก่งมากๆ ค่ะ ขอขอบคุณจากใจเลยค่ะ จนนึกอยาก
เสนอให้คุณหมอเชิญรุ่นพี่เซียนๆ เหล่านี้มารวมตัวให้ความรู้ ให้ประสบการณ์บ้างจังเลยค่ะ คงจะสนุกและน่าสนใจมากแน่ๆ เลยทีเดียว
แต่ดิฉันว่าดิฉันเองน่าจะได้เคยพบบ้างแล้วบางคนนะคะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ