ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 4:43 pm

:?: การฝึก SIและฟลอร์ไทม์ ไปด้วยกันได้ไหม (ฝึก SI ทำให้สนุกได้ไหม)


บางคนบอกว่า SI กับ ฟลอร์ไทม์ ไปกันไม่ได้ ...

บางคนว่าการฝึก SI ต้องบังคับเด็ก เพราะสิ่งที่ฝึกฯ ฝืนกับระบบรับรู้ของเด็กที่เด็กไม่อยากทำหรือต้องการเลี่ยงอยู่แล้ว ...

บางคนว่าฝึก SI แนวฟลอร์ไทม์ เหมือนการเดินอ้อมเขา เห็นผลช้า ต้องโน้มน้าว ต้องชักชวนกันนาน ใช้วิธีบังคับให้ทำเร็วกว่า ไม่ต้องอ้อมเขา...

บางคนว่าการฝึกแนวบังคับ กับฟลอร์ไทม์ก็เหมือนกับศาสนาต่างๆ ที่จุดมุ่งหมายเป็นอันเดียวกัน แต่วิธีการนั้นแตกต่าง...


แต่ผมเห็นว่าฟลอร์ไทม์ กับ SI ร่วมกันได้จริงๆ ทำได้จริงๆ ทำแล้วลูกมีความสุข ไม่ต้องบังคับ ทำให้ลูกมีอารมณ์มีตัวตน เข้าใจความรู้สึกตัวเอง ลูกยอมทำในหลายๆอย่างที่เลี่ยง โดยยอมทำเองจริงๆ ลูกไม่ต้องฝืนใจทำ และยังกล้าลองทำอีกหลายๆอย่างได้เอง ผมว่ามันยั่งยืนกว่า รวมทั้งตัวผมเองก็มีความสุขที่เห็นลูกมีความสุขด้วยครับ

และมั่นใจว่า แนวทางนี้ ตอบโจทย์ได้จริงๆ เพียงแต่ผู้ฝึกฯ(ทั้งครูฝึกฯ และผู้ใกล้ชิด)ต้องเปิดใจยอมรับแนวทางนี้จริงๆ และเข้าใจหลักการที่ถูกต้อง



:ugeek: ความเห็นอาจารย์ฯ (07/10/2010,16:28)

ฟลอร์ไทม์กับการทำ SI เป็นของคู่กัน

ทำคู่กันได้แน่ ถ้ามีฝีมือ ถ้าใครเคยเห็นนัก SI แนวฟลอร์ไทม์เล่นกับเด็กแล้วจะอึ้ง ทั้งสนุกทั้งได้ประโยชน์

5555 ขำที่บอกว่าฝึก SI แนวฟลอร์ไทม์เหมือนเดินอ้อมเขา

ถึงเราจะเดินเดินอ้อมเขา 2-3 ปีเราก็ถึงที่หมาย

ทำไมคนที่เดินไม่อ้อม ยังไม่ถึงที่หมายล่ะ

ไม่เห็นที่หมาย ไม่รู้วิธี เลยบอกว่ารักษาไม่หาย....

ส่วนที่เปรียบกับศาสนา ไม่ขอวิจารณ์ เหมือนการเล่นคำที่สวยรู้ เอาแพะมาชนกับแกะ

ที่ DIR/ ฟลอร์ไทม์ ใช้ความเป็นมนุษย์เป็นเป้าหมาย

เมื่อกำหนดเป้าหมายแล้ว เส้นทางที่ไปสู่เป้าหมายนั้นชัดเจน ตรงทาง

สำหรับเราแล้ว เส้นทางนี้ตรงที่สุดแล้วค่ะ


:ugeek: ความเห็นครูพบ (08/10/2010,15:27)

ไม่ได้ใช้ floortime ก็บอกกันตรงๆ ว่าไม่ได้ใช้
ผู้ปกครองจะได้มีสิทธิ์เลือกตัดสินใจได้ถูกต้อง

ไม่ได้ใช้แล้วบอกว่าใช้ อันนี้เข้าข่ายหลอกลวง
ไม่ได้ใช้แต่นึกไปเองว่าใช้อยู่ อันนี้เข้าข่ายหลงผิด

....ว่ามั้ย?
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 4:45 pm

:idea: บางเวลา ที่เรารู้สึก "อิน" กับเรื่องบางเรื่องมากๆ ก็ทำให้เราทำอะไรที่อาจดู "ไม่เข้าท่า" นัก ...

พอได้หยุดคิด ให้เวลาตัวเองสักหน่อย ก็คิดได้ว่า คงเพราะยังฝึกใจตนเองไม่พอ ยังขาดด้วย "อุเบกขา"....


ขอบคุณด้วยใจจริงๆ ทั้งอาจารย์ฯ, คุณหมอ, คุณครูฯ ที่นำเสนอสิ่งดีๆให้ได้รับรู้ รวมถึงคุณพ่อคุณแม่อีกหลายๆท่าน ที่ได้ทำให้คิดอะไรได้อีกหลายอย่าง....


และที่จะขาดไปไม่ได้ก็เป็น คนที่สำคัญที่สุด "น้องเฌอแตม" สิ่งที่มีคุณค่าที่สุดในชีวิตของป๊าและม้า...

"ขอบคุณน้องแตม" จากความรู้สึกสุดหัวใจ ที่ทำให้ ป๊าและม้า ได้มีโอกาสฝึกตนเองอย่างนี้....
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 4:53 pm

:ugeek: ความเห็นอาจารย์ฯ

อดีตเด็กออทิสติก

ดูให้พอชื่นใจ จะได้มีแรงทำฟลอร์ไทม์กับลูกค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=1mH09KhW ... re=related
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 4:56 pm

:?: การพูดคุยกับบุคคลอื่นๆภายในครอบครัว(อาม่า) ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ ไม่ว่าคำถามและการพูดคุยจะเป็นการถามจากความจำหรือไม่


:geek: ความเห็นจากคุณ ma_ann

เรื่องคุยกับอาม่า ดิฉันมองว่าถึงจะเป็นแต่การถามความจำ

แต่หากจำนวนรอบยังมีเพิ่มขึ้น ก็ยังเป็นโอกาสที่น้องแตมจะได้ฝึกพูดคุย ได้จดจ่อกับผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่พ่อแม่ ( ที่รู้ทางกันดีอยู่แล้ว )

หากคุณพ่ออยากจะเพิ่มความรู้สึก ก็แย็บๆ ถามแบบที่ทำก็ดีค่ะ ช่วยเพิ่มไอเดียให้อาม่าได้ แต่อย่าเผลอไปแย่งซีนล่ะ ให้โอกาสอาม่ากับหลานคุยกันยาวๆบ้างก็ดีนะคะ



:ugeek: ความเห็นอาจารย์ฯ

เห็นด้วยกับ ma_ann ค่ะ ให้ย่าหลานเค้าคุยกันไปค่ะ



:ugeek: ความเห็นครูพบ

อาม่าไม่ได้ไปด้วยซักหน่อย..ไม่ใช่หรือครับ

คำถามที่อาม่าถามแตม
แม้เป็นความทรงจำของแตม
แต่ก็เป็นสิ่งที่อาม่าอยากรู้จริงๆ
และไม่ได้รู้คำตอบมาก่อน
ว่าไป.. ก็เหมือนคนปกติที่พูดคุยถามไถ่กัน ว่ามั้ยครับ?


:idea: สรุปความคิด

"เหรียญมีสองด้าน อยู่ที่ว่า ณ.เวลานั้นมองเห็นด้านไหน" (เห็นประโยชน์/โอกาส ของสิ่งนั้นหรือไม่)
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 5:06 pm

:?: การเล่นสมมุติ และการสร้างอุปสรรคโดยใช้เทคนิค "กาหวงไข่" & วิธีคิดและแก้ปัญหา


:ugeek: ความเห็นอาจารย์ฯ (30/11/2010,11:37)

การเล่นลักษณะที่เหมือน "กาหวงไข่" น้องแตมก็จะพยายามกัน ทั้งผลัก ทั้งดัน คอยบอกว่า ออกไป ไม่เอา ไม่ให้ มาม้าอย่ายุ่ง ไปไกลๆเลย หรือเอาไปทิ้งไกลๆเลย

ตอบ - เป็นการแก้ระดับสัญลักษณ์แล้ว ให้ต่อยอดแบบ "ทิ้งที่ไหน ไกลพอหรือยัง"


:ugeek: การสื่อสารในขณะอารมณ์ด้านลบ(หงุดหงิด - โกรธ) ...

ควรทำงานอารมณ์ ปลอบโยน สลับกับการชวนคุย เท่าที่อ่าน เหมือนเน้นการตื้อถามคำถาม มากกว่าการร่วมรับรู้อารมณ์ค่ะ

อย่าง "ไม่ต้องดู ป๊าไม่ต้องดู" น่าจะรับมุขแบบเป็นพวกเดียวกันก่อนว่า โห..ไม่อยากให้ดูเลยเนอะ ก่อนที่จะตื้อต่อว่า....ขอดูหน่อยได้ไหม



:?: อาจารย์ฯครับ แล้วอย่างการที่เอาไปทิ้งจริงๆหนะครับ เช่น น้องแตมบอก โยนไปที่หลังคาเลย แล้วก็เงื้องมือ จะโยนจริงเสียด้วย แม่น้องแตม รีบเข้าไปหยิบตุ๊กตาคืน

เพราะน้องแตมเอาจริงหนะครับ อย่างนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ระดับ 3 หรือเปล่าครับ หรือก็ยังถือว่าเป็นระดับสัญลักษณ์ครับ (จริงๆผมมองเป็นระดับ3ครับ แต่ผมไม่แน่ใจ)

แล้วการที่น้องแตมเอาจริงเป็นเพราะน้องแตมยัง "แยกเรื่องจริงกับเรื่องเล่น" ไม่ออกใช่หรือเปล่าครับ


ส่วนเรื่องถามตอนหงุดหงิด ก็คงเป็นเพราะผมยังเข้าไม่ถึงจริงๆหน่ะครับ คิดว่าต้องลองใหม่ครับ

ขอบคุณครับอาจารย์ฯ


:ugeek: ความเห็นอาจารย์ฯ

ตอนพูดว่าจะโยน เป็นการใช้สัญลักษณ์แสดงความโกรธ

แต่ตอนโยน เป็นการแสดงความโกรธระดับพฤติกรรม

ถ้าเป็นตุ๊กตาผ้า อาจจะช่วยกันโยน (ถึงเพดาน) คือเป็นพวกเดียวกัน ช่วยกันระบายอารมณ์ สลับด้วยการทำงานอารมณ์

แต่วิธีนี้มีความเสี่ยงนิดหน่อย ตรงที่ต้องแยกว่าอะไรโยนได้ อะไรโยนไม่ได้

ทางที่ดี หน่วงอารมณ์โกรธไว้อีกหน่อย เพื่อจะได้มีเวลาคิดจะทำอย่างอื่นที่ดีกว่า

เช่น โห....แตมอยากจะโยน พ่อช่วยไหม


โอ เค ๆ แตมจะโยนเอง จะโยนหรือยัง แน่นะ กะจะโยนถึงตรงไหน

แค่นี้สูงพอหรือยัง (ยกมือแสดงระดับ)


ประมาณว่าพ่อกับลูกวางแผนจะช่วยกันโยน แต่ยังไม่ได้โยนน่ะค่ะ

พอนึกภาพออกไหมคะ


:idea: สรุปความคิด

ไม่เบี่ยงเบนอารมณ์, ร่้วมรับรู้อารมณ์ด้วยกัน, คงการสื่อสารกับอารมณ์นั้นไว้ให้นานที่สุด และช่วยกันหาทางออก(แก้ปัญหา)
แก้ไขล่าสุดโดย พ่อน้องเฌอแตม เมื่อ จันทร์ 17 ต.ค. 2011 6:14 pm, แก้ไขแล้ว 2 ครั้ง.
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 5:41 pm

:?: เคยบอกฉี่ได้ แล้วไม่ยอมบอก ลูกถอยหรือเปล่า

:?: ลูกไม่ยอมลุกขึ้นเวลาเล่นสมมุติกัน(ให้ไปซื้อของให้) ตื้อให้ไปหยิบของก็ไม่ไป (หวังผลลัพธ์)


:ugeek: ความเห็นอาจารย์ฯ

คำตอบขึ้นอยู่กับว่า เราต้องการอะไร

ถ้าจริง ๆ แล้ว เด็กทำได้ เราให้เขาทำซ้ำ มันก็น่าเบื่อ

แต่ถ้าคิดว่าการวิ่ง การทรงตัว ของเขายังไม่ดี เราก็หวังผลลัพท์ได้เหมือนกัน

กิจกรรมที่ผู้ใหญ่จัดฉาก และหวังผลลัพท์ ในสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วว่าเด็กยังทำได้ไม่ดี เรียกว่ากิจกรรมการแก้ปัญหากึ่งเป็นระบบ (semi-structure problem solving) มีความสำคัญมากเหมือนกัน

โดยแนะนำตั้งแต่พัฒนาการระดับ 3-4 เป็นต้นไป

พ่อแม่ที่จะทำอย่างนี้ ควรจะเป็นผู้ที่ฟลอร์ไทม์ได้ดีแล้วค่ะ


ถ้าไม่อยากทำ ก็ต้องเล่นให้สนุก พ่อไปซื้อด้วย คลานแข่งกัน ใครถึงก่อนได้ซื้อของ อย่างนี้เป็นต้น


:ugeek: กิจกรรมฟลอร์ไทม์ มีเด็กเป็นผู้นำ หวังผลพัฒนากระบวนการคิดและการสื่อสาร

กิจกรรมแก้ปัญหากึ่งเป็นระบบ ผู้ใหญ่เป็นคนจัดฉาก หวังผลแก้ปัญหาทางระบบประสาท และพัฒนาทักษะต่าง ๆ

คนทำคล่อง ๆ ผสมกันได้ค่ะ

เช่น เวลาเล่นสมมุติ พ่อแม่เล่นตามลูกบ้าง กระตุ้นกระบวนการคิดบ้าง แอบฝึกการทรงตัวบ้าง ตามตัวอย่างแม่น้องมาร์ึคในหนังสือเล่มขาว ที่ยืนขาเดียวตกปลาที่สะพานซังฮี้ ค่ะ


:ugeek: ความเห็นอาจารย์ฯ (เพิ่มเติม)

ส่วนเรื่องบอกฉี่ ก็ต้องแน่ใจนะคะว่าท่าทีของพ่อและแม่ไม่ได้หวังผลลัพท์เรื่องบอกได้ (เคยบอกได้แล้ว ควรบอกได้)

และไม่ควรถดถอยเมื่อมีน้อง

หากมีท่าที "ถอยก็ถอย เป็นเรื่องธรรมดาที่ถอย การมีน้องเข้ามาแชร์ทุกสิ่ง เป็นเรื่องใหญ่ของเด็ก ขนาดเตรียมอย่างดี ก็ถอยได้ ถ้าไม่ได้เตรียมตัว คงถอยกว่านี้"

ก็คงทำใจง่ายกว่านี้ค่ะ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 5:53 pm

ขอบคุณอาจารย์กิ่งแก้ว และครูพบ มากครับที่ช่วยแก้ไขที่ผมเข้าใจผิดพลาดครับ :D


:idea: การสร้างความมั่นใจในตนเอง ..

จะเกิดได้ต้องเกิดจากตัวของลูกเอง โดยมีพ่อแม่ที่เคียงข้างอย่างเข้าใจจริงๆ ไม่ผลักดัน ไม่หนีหาย และให้กระบวนการคิดกับลูก

เช่น การมองหาจุดดีของลูก ก็ลูกตัวเล็ก แต่มีข้อดีนะ ที่เข้าไปซ่อนอยู่ในตู้เล็กๆนั้นได้ เพื่อนๆตัวโตกว่าจึงเข้าไปไม่ได้ รวมทั้งให้

ลูกได้ลงมือทำสิ่งต่างๆด้วยตนเอง ให้โอกาสลูกได้ชนะบ่อยๆ และ "ท่าทีของพ่อแม่เมื่อลูกทำอะไรสำเร็จแม้เพียงเล็กน้อย" มีส่วน

สำคัญที่ทำให้ลูกสร้างความมั่นใจและความนับถือตนเองได้ง่ายขึ้น


:idea: การตอบโต้ด้วยการทำร้ายเพื่อนเมื่อเพื่อนแหย่ หรือแกล้งเพื่อน ..

จุดหลักคือการกำกับตนเองได้ แต่ก่อนที่จะถึงตรงนั้น ต้องมีการระดมความคิดด้วยกันว่าจะทำอย่างไรเมื่อเพื่อนแหย่ ด้วยวิธีการต่างๆ

หาหนทางที่อาจจะได้ผล หรือยังไม่ได้ผล เช่น ทำเฉยๆ ไม่สนใจฟัง, หาข้อดีของสิ่งที่เพื่อนล้อ, แสดงให้เพื่อนเห็นว่าเราเป็น

พวกเดียวกันกับเพื่อน เป็นต้น


เมื่อทำสิ่งที่เกินขอบเขตไป เช่นทำร้ายเพื่อน การลงโทษ ต้องพิจารณาให้ดีว่าขัดกับการพัฒนาลูกหรือไม่ เช่นใช้ การออกกำลัง

กายแทนการลงโทษด้วยการตี (ข้อเสียของการตี เพิ่มเติมได้ใน CD แผ่นใหม่ของครูพบ "ห้องเรียนพ่อแม่")


หากเป็นไปได้ ลูกสามารถคงความรู้สึกอยากแกล้งเพื่อน ไว้อีกสัก 3 นาทีก่อนจะไหวไหม ถ้าไม่ไหวจะทำอย่างไรดี

เพื่อให้คงสติที่จะคิดและสื่อสารแม้ในขณะมีอารมณ์นั้น
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 6:02 pm

:idea: ทีวี, CD, DVD กับลูก ..

ทั้งทีวี,ซีดี,หรือ ดีวีดี ทั้งหมดนี้รวมเรียกว่าสื่อ ซึ่งมีทั้งประโยชน์และโทษ พูดถึงประโยชน์ คือได้ทั้งสาระ และความบันเทิง เช่น ได้เห็น

ในสิ่งที่ไม่ได้เห็น ไฟไหม้, ภูเขาไฟระเบิด, ใต้ทะเลลึก และได้ความบันเทิง ความเพลิดเพลิน เช่นจากละคร เป็นต้น

โทษของสื่อ เช่น ขาดช่วงเวลาฟลอร์ไทม์ดีๆ เพราะ พ่อแม่และลูกกำลังเพลินกับการดู/ฟังสื่อนั้น


โดยส่วนใหญ่สื่อเนื้อหาต่างๆที่มากับสื่อ มักมีบางสิ่งที่บิดเบือน ยกตัวอย่างโฆษณาที่ทำให้เราเข้าใจว่า "ทำกับข้าวให้อร่อย ต้องใส่ผงชูรส"

จริงหรือที่ต้องใส่ผงชูรสนี้ แล้วจะอร่อย แล้วถ้าใส่แค่เครื่องปรุงธรรมดาหล่ะ จะอร่อยไหม บางคนไม่ต้องใส่ผงชูรส ก็ทำได้อร่อย และความ

อร่อยจากผงชูรส จะดีจริงๆหรือ


สื่อบางอย่างยังปิดกั้นจินตนาการอีกด้วย เช่น ทีวี ซึ่งมีข้อดีคือทำให้เข้าใจได้ตรงกัน(กับที่ผู้สื่อต้องการสื่อ) ได้มากกว่าสื่ออื่นๆ เพราะมีทั้งภาพและเสียง แสดง


:ugeek: ความเห็นจากครูพบ

แต่การเข้าใจที่ตรงกันไม่ได้แปลว่าจะเข้าใจได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด
เพราะหากผู้สื่อนำภาพ หรือเนื้อหาที่ผิดพลาดมาเสนอ
ก็ย่อมทำให้ผู้ชมเข้าใจเรื่องนั้นๆ ผิดพลาดได้ แม้จะเข้าใจตรงกัน


แต่สื่อต่างๆก็สร้างความเห็น(ความเข้าใจ)ที่บิดเบือนไม่ถูกต้องให้กับผู้รับสื่อได้เช่นกัน เช่้น "เรื่องสีผิว"


:ugeek: ความเห็นอาจารย์ฯ (ขอบคุณอาจารย์ฯ ที่ช่วยอธิบายเพิ่มเติมครับ :D )

"คือ ดูแล้วเข้าใจผิดได้เหมือน ๆ กัน นะคะ

เรื่องนี้เห็นชัดเจนมาก คือ เรื่องสีผิว

สมัยก่อนเวลาบรรยายถึงผิวสี การใช้คำว่า "ผิวสองสี" หรือ "ผิวเนื้อดำแดง" เป็นเรื่องปกติของคนในภูมิภาคนี้

เดี๋ยวนี้มีการสร้างเทรนใหม่ จนผู้คนเข้าใจว่า ต้องขาวให้ได้ บางครั้งขาวอย่างเดียวไม่พอ ต้องออมชมพูด้วย

พอได้ยินแล้ว คิดถึงสีของ "ลูกหมูเกิดใหม่" จัง "



:idea: ดังนั้นการใช้สื่อจึงต้องพิจารณาให้ถ้วนถี่ ว่าพ่อแม่สามารถแยกแยะสิ่งที่มากับสื่อนั้นได้ตามความเป็นจริงเร็วพอ,ถูก ต้องแม่นยำ,สังเกตเห็นสิ่งที่เกิดกับลูก

เมื่อรับสื่อเหล่านั้น และรวมถึงไม่เพลิดเพลินจนลืมที่จะหันมามองดูลูกๆของเรา (และลูกของเราก็ไม่เพลิดเพลินจนไม่สนใจสื่อสารกัน)


ตัวอย่างหนึ่งจากความเข้าใจผิดคือ ให้ลูกดูทีวีแล้วจะได้มีเรื่องไปคุยกับเพื่อน (เข้าสังคมกับเพื่อนได้) ลองคิดย้อนถามตัวเองว่า จริงหรือที่ถ้าไม่ได้ดูการ์ตูนเรื่องนี้

แล้วลูกจะคุยกับเพื่อนไม่ได้ แล้วถ้าลูกคุยกับเพื่อนได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องดูการ์ตูนเรื่องนี้หล่ะ ลูกใช้ทักษะที่สูงกว่าไหม จะดีกว่าแค่ไหน
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 17 ต.ค. 2011 6:02 pm

:idea: Desensitization

:ugeek: ความเห็นจากอาจารย์ฯ (16/09/2011,10:39)

การทำ desensitization ใช้ในกรณีที่เด็กไวเกิน และไม่ชอบสิ่งนั้น ไม่ว่าจะเป็นระบบสัมผัส แสง เสียง การเคลื่อนไหว กลิ่น รส

จากอ่อน ไปเข้ม

จากระยะไกล แล้วค่อย ๆ เข้าใกล้

จากทนได้ประเดี๋ยวเดียว เป็นานขึ้น

จากการรับในช่วงที่สภาพร่างกายพร้อม เป็นช่วงสภาพร่างกายไม่พร้อม

แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ ต้องดูความจำเป็นและหน้างานขณะนั้นด้วย

คุณหมอกรีนสแปนยกตัวอย่าง "กิจกรรมการกลิ้งม้วนหน้า" ในครอบครัวนักวิทยาศาสตร์ อาจจะถือว่ามีความจำเป็นน้อย แต่ครอบครัวนักกายกรรม จัดเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: ขอคำแนะนำการทำ Floortime ครับ

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » พุธ 01 ก.พ. 2012 10:39 am

สวัสดีครับ

อาจารย์ฯ,คุณหมอ, คุณครู แล้วก็ผู้ปกครองทุกๆท่าน

รู้สึกอายๆเขินๆนิดหน่อยครับ :oops: ที่ไม่ได้เข้ามาเขียน update อะไรเลย (แต่ยังแอบเข้ามาอ่านนะครับ) ด้วยเวลาที่ว่างน้อยลง

แต่ยังได้รับการทบทวนและคิดพิจารณานะครับ จากการได้อ่านในกระทู้บางข้อความครับ


สำหรับฟลอร์ไทม์ของผมก็ยังหลุดๆ ไปบ้าง พลาดบ้าง นึกได้ก็กลับมาครับ แต่ก็พยายามให้ตรงๆแนวเข้าไว้ คำๆหนึ่งใน clip

ที่อาจารย์และคณะ post ไว้ให้ดู ก็ทำให้ผมกับแฟนใช้เป็นหลักได้ด้วยครับ (คลิปพุทธรรมฯ) คือพยายามปรับตัวเองให้

สมดุลกันระหว่างองค์ประกอบต่างๆ โดยเฉพาะเมตตาและอุเบกขา บางทีแฟนผมก็บอกผมว่า ผมให้เมตตามากเกินไปแล้ว(ใจอ่อน)

ผมก็จะนึกขึ้นได้ ก็ค่อยๆปรับกันไปครับ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ



cron