สมาชิกใหม่ รบกวนขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

[กิ่งแก้ว]

คุณแม่คงไม่เข้าใจเรื่องการพัฒนาอารมณ์ จึงใช้วิธีเบี่ยงเบนความสนใจ พอทำไม่สำเร็จ เด็กก็โมโห

หากต้องการพัฒนาอารมณ์ ใจจะต้องเชื่อว่าอารมณ์เป็นเรื่องปกติ แล้วค่อย ๆ เลี้ยงการสื่อสารเอาไว้ในอารมณ์หงุดหงิดเล็กน้อยก่อน

แบบงง ขำๆ ทีเล่นทีจริง

อธิบายยากค่ะ ถ้าได้เห็นตัวอย่าง.จะเข้าใจง่ายกว่านี้

หรือไม่ก็แอบดูคนขี้เล่นเขาหยอกเด็กก็ได้ค่ะ

[nui6621]

สวัสดีค่ะ อ.กิ่งแก้ว

เมื่ออาทิตย์ที่แล้วได้คิวที่ศาลายาแล้วค่ะ ได้มีโอกาสพบกับครูอ๋อนค่ะ
ตอนนี้ได้คิวเดือนละครั้ง วันที่ไปลูกไม่ยอมกลับ อยู่เล่นต่ออีกพักใหญ่
ดูท่าจะชอบ กลับมาก็จำคุณครูอ๋อนได้ด้วยค่ะ

ตอนนี้ได้เล่นกับลูกมากขึ้น เพราะเค้าเปลี่ยนเวลานอน จะนอนกลางวันประมาณ 13.00-16.00
และเข้านอนอีกทีก็สามสี่ทุ่มค่ะ ช่วงหกโมงเย็นถึงก่อนนอนเลยเล่นกันเต็มที่ เล่นเอาสนุกไว้ก่อน

ตอนนี้พบคุณครูหน่องที่ รพ ธนบุรี2 เดือนละครั้ง และก็คุณครูอ๋อนที่ศาลายา เดือนละครั้งเหมือนกันค่ะ

ปัจจุบันลูกเล่นสนุกมากขึ้นค่ะ บางครั้งมีการซักถามว่านั้น นี่ คืออะไร เช่นบางทีเค้าร้องให้อุ้ม

ลูก : อุ้มๆ แม่อุ้ม
แม่ : อุ้มทำไมอ่ะ
ลูก : อุ้มๆ แม่อุ้มดู
แม่ : อุ้มดูอะไรครับ
ลูก : แม่อุ้มดู
แม่ก็เลยอุ้มค่ะ พออุ้มเค้าก็เอามือชี้จิ้มที่ลำโพง
ลูก : นี่คือไร
แม่ : ลำโพงไงลูก speaker ( มันมีรูปเป็นวงกลมๆ ด้านหน้า คิดว่าเค้าเลยสนใจเพราะมันเป็นวงๆค่ะ )
ลูก : ลำโพง speaker
แม่ : ใช่ๆ ลูก ลำโพง ภาษาอังกฤษ เรียกว่า speaker (แอบสอนหน่อยนึงค่ะ)
ลูก : มันหมุนได้มั๊ย
แม่ : หมุนไม่ได้ลูก มันจะมีเสียงดัง ตอนเปิดเพลง (แต่เสียดาย ไม่ได้เปิดให้ฟังตอนนั้น เพราะไม่ได้ต่อไฟไวค่ะ)
หลังจากได้คำตอบเค้าก็ไปเล่นอย่างอื่นต่อ แต่พอคุณพ่อมาให้แกล้งถามเรื่องลำโพง เค้าก็พูดว่าลำโพง speaker ค่ะ

เค้าเริ่มมีคำถามโน่น นี่ นั่น คืออะไรมากขึ้นค่ะ มีอาการร้องงอแง ซอยเท้ามากขึ้นเวลาไม่ได้ดั่งใจ
ตอนนี้พยายามบอกอารมณ์เค้าว่าหนูโกรธ หนูไม่พอใจ หนูหิว หนูเจ็บ
เพราะเรื่องอารมณ์ ความรู้สึกพวกนี้ เค้ายังบอกไม่ได้เลยค่ะ
แต่มีแสดงออกชัดเจน เช่นจะเอานม แล้วหยิบให้ช้า พอได้ขวดนม ไม่พอใจจะโยนขวดนมเลยค่ะ
คุณแม่จะรีบบอกว่า ไม่พอใจเนอะ แม่ช้า ลูกหิว โมโหเลย

แต่ก็มีครั้งนึงค่ะ ที่เอานมขวดเล็กให้ แล้วเค้าโวยวายบอกจะเอาขวดใหญ่
(ปกติเค้าจะกินขวดใหญ่)

สำหรับการพูดตรงสถานการณ์มากขึ้นค่ะ แต่ยังไม่ค่อยตอบคำถามเราเท่าไร
และที่ตอบก็มีถูกบ้างผิดบ้าง ยังจำมาตอบบ้าง บางอันยังเป็นเอคโค่อยู่ค่ะ

แต่ช่วงหลังมีชวนมาเล่นมากขึ้น มาถึงตอนนี้คุณแม่ยังดูไม่ค่อยออกว่าลูกน่าจะมีพัฒนาการถึงขั้นไหน
เลยเอาแค่เล่นสนุก และสื่อสารกันได้บ้างเป็นพอค่ะ
รบกวนอ.กิ่งแก้วช่วยแนะนำด้วยค่ะ ว่าพัฒนาการน้องเป็นอย่างไร
และควรพัฒนาต่ออย่างไรค่ะ

[กิ่งแก้ว]

แค่อยากเตือนให้ระวังใจตัวเองเอาไว้ค่ะ

กับเด็กที่จำแม่น

อย่าเผลอป้อนคำศัพท์ให้จำมากนักนะคะ

พยายามทำให้แน่ใจว่าเด็กพูดเพือการสื่อสารและ พูดเพื่อตัวเอง

และต้องระวังว่าเขาจะเรียกสิ่งนั้นว่า "ลำโพง speaker"

ส่วนเรื่องลำโพง ดิฉันไมคอยแน่ใจนักว่าเขาสนใจเพราะชอบ

คอยสังเกตไปก่อนว่า แท้จริงแล้ว ชอบหรือกลัวกันแน่

เจอกันมาเยอะนะคะ เข้าหา เหมือนสนใจ แต่แท้จริงกลัว

สำหรับโปรแกรม ทำตามที่ครูอ๋อน ครูหน่องแนะนำค่ะ

[nui6621]

ขอบคุณมากค่ะ อ.กิ่งแก้ว

[nui6621]

สวัสดีค่ะ อ.กิ่งแก้ว

ช่วงนี้เห็นได้ชัดว่าคุณพ่อจะเล่นสนุกกว่าคุณแม่ซะแล้ว
เพราะลูกจดจ่อกับคุณพ่อมากกว่าค่ะ แต่ปลายเดือนนี้คุณแม่จะไปอบรมแล้วค่ะ

เดี๋ยวนี้เวลาน้องไม่ได้ดั่งใจ มักจะชอบกรีดเสียงดังค่ะ
พอน้องแสดงแบบนี้ ที่บ้านทำเลยรีบทำให้ค่ะ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร
เวลาเค้ากรีด ก็จะพูดเสียงดังๆ เหมือนไม่ได้ดั่งใจค่ะ
รบกวนอ.กิ่งแก้วช่วยแนะนำด้วยค่ะ สถานการณ์นี้ควรแก้อย่างไร

เรื่องการพูดคุย น้องคุยได้ตรงสถานการณ์เยอะขึ้นค่ะ
ไม่ค่อยพูดเรื่องซ้ำ ๆเดิม ๆ ตามนิทาน เท่าไหร่ แต่ยังมีอยู่บ้าง
บางทีเค้าชอบถามนี่คืออะไร คุณแม่ก็จะตอบ
บางครั้งพยายามคุยโต้ตอบกัน แต่ถ้าบางถ้าเค้าไม่รู้ เค้าจะเรียกว่า อ่า หมดเลยค่ะ
ยกตัวอย่างเช่นเล่นของเล่นไม้ด้วยกัน วางรูปบนเงา ที่เป็นแผ่นไม้
ระหว่างเล่นเค้าก็จะพูดบรรยายไปด้วย อันนี้รถสี.... เอาต้นไม้มาวาง...
บางทีหาไม่เจอก็จะถามแม่ รูปคนอยู่ไหน
แต่มาเจอบางรูปไม่รู้จัก พอคุณแม่ถามว่ารูปอะไร เค้าจะตอบว่า รูปอ่าค่ะ
แบบนี้ควรแก้ไขหรือปรับยังไงดีะ

[กิ่งแก้ว]

เรื่องร้องไห้แล้วได้ของ..เด็กก็เรียนรู้มาจากการกระทำของเขาและของคนใกล้ชิด

ในเมื่อร้องแล้วได้...เมื่ออยากได้อีก....ก็ต้องร้องอีก...หากยังไม่ได้...ก็ร้องดังขึ้น...เค้าเรียนรู้ว่า สุดท้าย เค้าก็ได้

วิธีการก็คืออย่าให้เกิดการเรียนรู้เช่นนี้

แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว ร้องแล้ว ก็ปลอบไป เข้าใจกันไป นาน....ก็นาน

หากเด็กไม่ได้มีปัญหาสุขภาพ ที่จะเกิดอันตราย ถ้าร้องไห้

ก็ยอมให้เขาร้อง อย่าลืมว่าเวลาที่ร้องไห้ คนที่เหนื่อยคือเขา ..

เทคนิคของ DIR ฟลอร์ไทม์ แตกต่างจากเทคนิคอื่น ตรงที่....เวลาที่เขาร้อง เรายังคงเข้าใจเขา ๆ ไม่ทอดทิ้งเขา ไม่ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียว

ส่วนเรื่องอื่น ดูภาพรวมเอาค่ะ ไม่ต้่องเน้นเปีะตลอดเวลาหรอกค่ะ

ทำฟลอร์ไทม์ไป คิ้วขมวดไป เพราะกลัวผิดเทคนิค ...ไม่สนุกหรอกค่ะ

[nui6621]

สวัสดีค่ะอ.กิ่งแก้ว

ตอนนี้น้องดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
คุยด้วยก็สบตา ติดเล่นมากขึ้น
จนบางทีนอนห้าทุ่มเลยค่ะ
เพราะอยากรอเล่นกับคุณพ่อด้วย

ปัจจุบันน้องเริ่มมีคำถามค่ะ
พูดจาโต้ตอบกันได้
บอกเหตุกาณ์ที่เค้าได้ไปทำมาจริงๆ
เช่นพาไปสวนสัตว์ กลับมาเจออะไรบ้าง
ไปทำอะไรมาบ้าง

เวลาที่เค้ากลัว หรือเจ็บก็จะเข้าหาคุณแม่ คุณยาย
และบอกเราได้ว่าเจ็บตรงไหน โดนอะไรมา
แต่ก็ยังมีประโยคซ้ำๆ อยู่บ้างค่ะ

ตอนนี้คุณแม่ยังดูไม่ค่อยออกเรื่องพัฒนาการเต็มขั้นมั๊ย
หรืออยู่ขั้นไหน ตั้งใจจะทำ floortime ไปเรื่อยๆก่อน
เพราะผ่านมาแค่เดือนกว่า น้องดีขึ้นมากค่ะ
คุณแม่ควรทำอะไรต่อไปอีกบ้างค่ะ รบกวนแนะนำด้วยค่ะ
วันที่ 28 จะไปอบรมค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

[กิ่งแก้ว]

ก็เล่นกันไป พูดคุยต่อยอดการสื่อสารกันไป

น่าจะเริ่มฝึกทักษะกับการแก้ปัญหาระบบประสาทได้แล้วกระมังคะ

DVD ประสานเสริม หน้าปกจิ๊กซอร์ค่ะ

ส่วนจะเริ่มบทบาทสมมุติเมื่อไร รอขอคำแนะนำจากครูอ๋อนะคะ

[nui6621]

สวัสดีค่ะ อ.กิ่งแก้ว

ช่วงนี้ดีขึ้นค่ะ (จากความรู้สึกของคนในครอบครัวค่ะ)
ติดพ่อ เบอร์1 แม่เบอร์2 คุณยายเบอร์3 ค่ะ
ตามลำดับความสามารถคนที่เล่นสนุกค่ะ

เวลาไปโดนอะไรแล้วเจ็บตัวจะมาบอกค่ะ
คุณแม่ก็จะบอกอาราณ์ว่าเค้าเจ็บ และก็ปลอบเค้าค่ะ
แต่พอถามว่าเจ็บตรงไหน เค้าก็ตอบตรงค่ะ
อย่างงี้แสดงว่าเค้าพอจะสื่อสารความรู้สึกเจ็บได้แล้วใช่มั๊ยค่ะ

เดี๋ยวนี้เวลาถูกขัดใจเรื่องอะไร น้องจะบอกว่าจะหาแม่ๆ
และพอคุณแม่เข้าไปเค้าจะรีบมากอดคอ และบอกว่ารักที่สุดๆ
แต่ประโยคที่ว่ารักที่สุดๆ คือประโยคที่คุณแม่เคยพูดกับเค้าค่ะ
เท่าที่สังเกตก็ยังมีจำมาพูดอยู่ค่ะ แต่ตรงสถานการณ์มากขึ้น

ช่วงนี้จะมีปัญหาเรื่องไม่คอยรอคอยค่ะ จะทำอะไรจะให้ได้เดี๋ยวนั้น
ไม่ทันใจจะกรี๊ดบ้าง ซอยเท้าบ้างค่ะ
แม่ก็มีกอดบ้าง ปลอบบ้าง แต่บางทีก็ไม่อยู่ค่ะ เลยต้องยอมให้
เรื่องนี้ควรปรับ อย่างไรดีค่ะ

[กิ่งแก้ว]

ดูคำตอบวันที่ 13 กพ.นะคะ