floor time น้องบ๊อบบี้

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » จันทร์ 19 มี.ค. 2012 9:45 am

อาจารย์ฯเคยบอกไว้แบบนี้ครับ "เหรียญมี 2 ด้าน" อยู่ที่ ณ.ขณะเวลานั้นเรามองเห็นด้านไหนของเหรียญครับ บางครั้งสิ่งที่เรามองว่าไม่ดีก็มีสิ่งดีๆวางอยู่

เพียงแต่เราจะมองเห็นหรือเปล่าครับ ...


ขอผมมองแบบนี้นะครับ มองเป็น "โอกาส" ที่จะได้ช่วยลูกให้มี "กระบวนการคิด" เพื่อ "แก้ปัญหา" (หากพอมีเวลา ไม่รีบเข้านอนนัก) ครับ

ตัวอย่างนะครับ ...

แม่ : บ๊อบ แอร์เสียงดังไหมลูก
บ๊อบ : ดัง
แม่ : หนูไม่ชอบเสียงแอร์ใช่ไหมลูก
บ๊อบ : ไม่ชอบ
แม่ : งั้นทำไงดีหล่ะ (รอคำตอบ...) ปิดแอร์ไหมหรือไปนอนนอกห้องดี
บ๊อบ : ปิดแอร์
แม่: ปิดแอร์แล้วก็ร้อนหนะสิ หนูร้อนไหม
บ๊อบ: ร้อน
แม่: แล้วทำไงดีหล่ะ แม่ก็ร้อนเหมือนกัน

ประมาณนี้หนะครับ หรือถ้าตอบว่าไปนอนนอกห้อง เราก็ทำตัวเป็น(คุณ)หญิง(เรื่อง)เยอะ แล้วยุงจะกัด, ร้อน, ฯลฯ คือใช้สิ่งที่ลูกไม่ชอบเพื่อทำให้เกิดการสื่อสาร

กระบวนการคิด และการแก้ปัญหาครับ (บนความเข้าใจนะครับว่าเป็นสิ่งที่ลูกยังรับไม่ได้จริงๆ)


อีกเรื่องที่ผมก็เป็นเหมือนกันครับ บางเวลาด้านของเหรียญอีกด้านก็มองไม่เห็น เนื่องจากความโกรธ ความกลัว หรืออะไรอีกมากมาย แต่ผมก็พยายามจะมองหานะครับ...


ด้วยความเป็นกัลยาณมิตรต่อกันครับ
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » อังคาร 20 มี.ค. 2012 7:27 am

เพิ่มโอกาสอีกนิด

กับลูก เป็นโอกาสชวนกันคิด หาทางออก

เวลาคนเรากลัวอะไร ไม่ชอบอะไร เราไม่ต้องต้องซื้อใหม่เสมอ จริงไหม

แถมยังมีโอกาสตรวจสอบตัวเอง

รู้สึกยังไงต่อเหตุการณ์นี้

กลัวอะไรหรือเปล่า

หงุดหงิดอะไรหรือเปล่า

ทำไมคำตอบของเรา ถึงมีคำตอบเดียว

คำตอบนี้ เกิดจากความเคยชินอะไรของเรา
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย santana » อังคาร 20 มี.ค. 2012 3:04 pm

ขอบคุณคุณหมอกิ่งแก้วและคุณพ่อน้องเณอแตมมากค่ะ

คำแนะนำของทั้งสองท่านทำให้คุณแม่น้ำตาซึม นี่คุณแม่คิดว่าตนเองเข้มแข็งและเข้าใจ

ความติดขัดของลูกแล้วนะ พอมานึกย้อนดูแล้วมันก็ยังมีความสั่นไหว กลัว และกังวลเหมือนกันค่ะ

คุณแม่จะค่อยๆเพิ่มทักษะตัวเองในการเปิดโอกาสให้ลูกคิดและแก้ไขปัญหา

ซึ่งตัวคุณแม่เองก็ต้องพัฒนาทักษะนี้อีกมาก
santana
 
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 21 ม.ค. 2012 9:51 pm

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย santana » อังคาร 27 มี.ค. 2012 3:43 pm

ขณะนี้การพาบ๊อบบี้เข้านอนคุณแม่ก็จะเรียนรู้บ๊อบไปเรื่อยๆทำให้ทราบขอบเขตที่เขาพอรับได้ เช่นนอนห้องแอร์แต่ต้องเปิดไฟ(เหมือนนอนกลางวันที่แทบไม่มีปัญหาเรื่องการเข้านอน) บางคืนก็หลับได้ทันทีในเวลาไม่นานแต่บางคืนก็มีเรื่องต้องคุยกันพอสมควรเช่นเมื่อคืนนี้

บ๊อบ : ไปนอนข้างนอก

แม่ : ทำไมละลูก

บ๊อบ : แอร์เสียงดัง

แม่ : แล้วบ๊อบจะให้แม่ปิดแอร์หรือไปนอนข้างนอกละลูก

บ๊อบ : ไปนอนข้างนอก

แม่ : โอเคงั้นเราไปนอนข้างนอกกัน แล้วก็หอบอุปกรณ์ไปปูนอนข้างนอกและบ๊อบก็มานอนด้วย
นอนไปซักพักบ๊อบก็ลุกเดินจะไปข้างนอก

แม่ : บ๊อบจะไปไหน

บ๊อบ :ไปข้างนอก ไปขี่รถเล่นไหม( มุขเดิมเวลาลูกงอแงนอนยากจะพาลูกไปนั่งรถเล่นแล้วหลับ)

แม่ : ไม่ไปหรอกลูก ไปเรากลับไปนอนกันเถอะ แล้วก็พาเขากลับไปที่หมอน

บ๊อบก็ไม่หลับ กระสับกระส่ายดิ้นไปดินมาพร้อมกับพูดอยู่คนเดียว

แม่ : โฮย!ไม่ชอบเลยนอนข้างนอกเนี่ยมันร้อนเนอะ นอนไม่ได้เลย ไม่ชอบเลย ร้อน ร้อน

แม่ : เอาไงลูกบ๊อบเราจะนอนข้างในหรือนอนข้างนอก

บ๊อบ : ซักพักใหญ่ ๆก็ตอบมาว่า นอนข้างใน

แม่ : โอเคไป ไปนอนข้างในกัน

พอกลับเข้าห้อง ก็นอนในที่ที่ไม่ยอมนอนตั้งแต่แรกและ มีบ้างบางครั้งที่เหลือบมองแอร์ แต่แล้วก็หลับไปอีก 10 นาทีต่อมา
อยากเรียนถามคุณหมอ คุณครู ผู้ปกครองท่านอื่นๆว่า ปกติเมื่อเด็กประสบพบเจอกับสิ่งที่ไม่ชอบมีจะ 3 อย่าง คือ ทน หนี และสู้ ขณะนี้บ๊อบก็เข้าข่าย1. หนี(ออกจากห้อง) 2.ทน(ฟังเสียงแอร์เมื่อข้างนอกนอนไม่ได้) การทำแบบนี้เป็นวิถีทางที่ถูกต้องหรือไม่ค่ะบนความเข้าใจในสิ่งที่ลูกยังติดขัด หรือคุณแม่ควรแก้ไขอย่างไร
santana
 
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 21 ม.ค. 2012 9:51 pm

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย krongkan » อังคาร 27 มี.ค. 2012 4:47 pm

คุณแม่น่าจะทำงานอารมณ์มากกว่านี้ค่ะ ถ้าทราบแน่ๆ ว่าเขากลัวก็สะท้อนอารมณ์ไปเลยและรับรู้อารมณ์กันให้มากกว่านี้
ที่อ่านมาเหมือนคุณแม่ตั้งเป้าอยู่แล้วว่าจะกลับเข้าไปนอนในห้องนอน เจตจำนงค์และความรู้สึกที่แท้จริงของน้องก็จะถูก
พับเก็บเข้าไปค่ะ ถ้าต้องการให้เขามั่นใจ เจตจำนงค์ชัด ต้องยอมรับในความเป็นเขาอย่างหมดใจค่ะ สะท้อนอารมณ์กันก่อน
ว่าเขารู้สึกอย่างไร จากนั้นก็รับรู้อารมณ์เข้าใจ เห็นใจอยากปลอบใจ ให้เขารู้สึกได้แน่ๆ ว่าแม่เข้าใจ จากนั้นก็ทำงานความคิด
ว่าจะเอาอย่างไรกันดี หรืออาจใช้การเล่นสมมติเพื่อคลี่คลายความกลัวของลูก แต่ละขั้นใช้เวลาค่ะ ไม่สามารถทำได้ใน
เวลาอันน้อยนิด ก็ขอให้เริ่มจากสะท้อนอารมณ์ รับรู้อารมณ์ เข้าใจ ยอมรับในความเป็นลูกอย่างหมดใจก่อน
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » พุธ 28 มี.ค. 2012 7:10 am

สิ่งที่ได้ คือ ทน หนี สู้ อย่างมีสติ คือ คิดก่อนค่อยทำ โดยทั้งหมดนี้ยังเป็นการแก้ปัญหาระดับพฤติกรรม

ซึ่งเราสามารถช่วยให้ขึ้นสู่ระดับสัญลักษณ์ที่แท้จริง คือถามความรู้สึก เช่น กลัว และถามต่อไปถึงว่ากลัว เพราะอะไร

ก็ค่อย ๆ เรียนรู้ไปค่ะ

รู้สึกเหมือน "ข้างใน" ของคุณแม่ยังไม่ปลอดโปร่งเสียทีเดียวนะคะ

ตอนที่คุยกับลูกน่ะ ใจข้างในมันเป็นยังไง คอยตรวจสอบดูนะคะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย santana » พุธ 28 มี.ค. 2012 3:29 pm

ขอบคุณคุณหมอกิ่งแก้ว คุณkrongkan มากค่ะ

ต่อข้อคำถามของคุณหมอกิ่งแก้ว ความรู้สึก ณ ตอนที่คุยกับลูกคือความเห็นใจ สงสารในความติดขัด

และมีแอบมีความกังวลในความสามารถตนในการนำพาลูกเพื่อผ่านพ้นความติดขัดอยู่บ้าง (นึกไม่ค่อยออกค่ะว่าจะพูดอะไร)

และข้อเสียอีกอย่างคือการมุ่งผลลัพธ์ ที่การเข้านอนทำให้ขาดโอกาสในการเรียนรู้เรื่องการสะท้อน รับรู้และ เข้าใจลูกอย่างเต็มที่

( อย่างที่คุณkrongkan แนะนำ)ณ ตอนนี้คุณแม่ดีใจที่มีกระจกเงาบานใหญ่คอยส่อง

และในคืนต่อ ต่อ ไป(เหมือนแกล้งลูกนะคะ ก็หนูบอกว่ากลัวเสียงแอร์ก็จะยังพามาเจออีก) คุณแม่ก็จะพาบ๊อบบี้เผชิญกับ

ความติดขัดนั้นและหาโอกาสช่วยกันคิดแก้ปัญหา ถ้าแม้เมื่อก่อนคุณแม่ก็คงจัดให้ลูกนอนพัดลมไม่ต้องเจอแอร์ แต่เมื่อมานั่งคิดนี่คือโอกาส

อย่างหนึ่งในการคิดแก้ปัญหา เพราะแม่คงพาลูกหนีความกลัวไม่ได้ทุกครั้ง
santana
 
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 21 ม.ค. 2012 9:51 pm

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย พ่อน้องเฌอแตม » พฤหัสฯ. 29 มี.ค. 2012 12:21 am

บางทีในขณะที่เราหวังผลลัพธ์ให้เป็นอะไรสักอย่าง เราก็เผลอ(และพยายาม)ให้ลูกตอบหรือทำในสิ่งที่เราหวังได้ครับ (ซึ่งผมก็

เป็นบางครั้งเหมือนกันครับ ที่รู้ตัวก็แก้ไข ที่ไม่รู้ตัวก็ผ่านไป หรือรู้ตัวทีหลังก็ปรับปรุงครั้งหน้าครับ) จริงๆแล้วก็ยังทักได้นะครับ

ให้ลูกรู้ตัวว่าเหตุใดจึงมานอนข้างนอก แล้วที่จะกลับเข้าไปเนี่ย เพราะอะไร ยังกลัวหรือไม่กลัวเสียงแอร์แล้วนะครับ

ตอนที่ลูกบอกจะเข้าข้างในนะครับ ก็ทักนิดหนึ่งได้ครับ เช่น ...

แม่: อ้าว ตกลงไม่นอนข้างนอกแล้วเหรอ (รอคำตอบ) แล้วเสียงแอร์หล่ะ จะเข้าไปฟังแล้วเหรอ หนูหายไม่ชอบเสียงแอร์แล้วเหรอลูก

บ๊อบ: ไม่ชอบเสียงแอร์ แต่จะเข้าข้างใน

แม่: ได้สิเข้าข้างในก็ดีเหมือนกันนะ แต่ข้างในก็มีเสียงแอร์ดังอยู่นะ

บ๊อบ: ...


จริงๆแล้ว ไม่ใช่เพื่อพาหลบหนีหรือพาเข้าหานะครับ แต่เป็นการให้ลูกมี "โอกาส" อยู่กับปัญหาและอารมณ์ของลูกครับ เพื่อให้ลูกมี "เวลา"

ได้คิดถึงและทำความเข้าใจ อารมณ์และความรู้สึกของตนเอง, และมีเวลาได้คิดถึงกระบวนการคิดแก้ปัญหา (ด้วยวิธีของตนเอง) โดยยังมี

เราเป็นผู้ร่วมคิด(และเข้าใจ)ด้วยครับ ไม่ว่าคำตอบในขณะนั้นจะเป็นหนี, ทน หรือสู้ นะครับ และเมื่อวันใดลูกพร้อม(เข้าใจและมั่นใจ)

ลูกก็จะมีวิธีแก้ปัญหาใหม่ๆที่อาจไม่ใช่การหนีอีกต่อไปครับ


อาจารย์ฯเคยบอกไว้ว่า เมื่อเรารู้แจ้งถึงวิธีแก้ปัญหานั้นแล้ว เราก็จะไม่กลัวปัญหานั้นอีก ก็คงเหมือนกับลูกของเราครับ ที่ต้องให้ลูกเป็นคน

เลือกวิธีของตนเอง ลองวิธีต่างๆ ผ่านกระบวนการคิด เมื่อวันใดที่ลูกรู้วิธีแก้ปัญหาและมั่นใจด้วยตนเองแล้ว ลูกก็จะสามารถแก้ปัญหา และ

อยู่กับอารมณ์นั้นๆได้ ด้วยตนเองเช่นกัน(ซึ่งผมว่ายั่งยืนและถาวรกว่า) แต่การเผชิญอะไรโดยลำพัง ผมคิดว่าเหมือนผลักลูกลงน้ำเพื่อสอน

ให้ว่ายน้ำนะครับ หากว่ายได้ก็ดี หากว่ายไม่ได้ก็ขยาดกลัวน้ำกันไปเลย ฉะนั้นการมีคนที่เข้าใจอยู่เคียงข้างเป็นคู่คิด เป็นหลักยึด ย่อมดีกว่า

ใช่ไหมครับ (แต่ความเมตตาและอุเบกขาก็ต้องมีให้สมดุลกันด้วยนะครับ ส่วนสมดุลคือตรงไหน ก็อย่างที่อาจารย์ฯบอกครับ คือต้องค่อยๆเรียน

รู้กันไปครับ ทั้งของลูกและของเราครับ)


ตรงนี้ผมก็ต้องค่อยๆเรียนรู้กันไปเหมือนกันครับ ...
ครั้งหนึ่งผู้ใหญ่ทุกคนต้องเคยเป็นเด็ก แต่มีน้อยคนที่จะจดจำความเป็นเด็กได้ รูปภาพ
พ่อน้องเฌอแตม
 
โพสต์: 77
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร 11 ต.ค. 2011 8:45 am

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย santana » พฤหัสฯ. 29 มี.ค. 2012 2:10 pm

ซาบซึ้งใจกับคำแนะนำของคุณพ่อน้องเณอแตมมาก

คุณพ่อจุดประกายปัญญาให้แม่บ๊อบบี้

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความกรุณาอย่างนี้อีกในคราวต่อ ต่อไป

ประโยคที่คุณพ่อเณอแตมยกตัวอย่างเหมือนรู้ว่ามันเพิ่งเกิดเมื่อคืนนี้

หลังจากบอกคับข้องใจและพาออกสะท้อน รับอารมณ์อย่างเข้าใจกันนอกห้อง เมื่อถึงเวลาก็เสนอทางออก(เท่าที่แม่จะคิดออกตอนนั้น) เช่น

บ๊อบจะให้แม่เอาแอร์ไปทิ้งหรือ นอนข้างนอกดี(พอลูกเลือกเอาไปทิ้งก็แกล้งกระโดดจะเอาไปทิ้ง ว้า !มันสูงแม่เอาไม่ถึง)

แล้วก็เปลี่ยน option คุยไปเรื่อย ๆ

แต่สุดท้ายเมื่อง่วงสุด สุด ลูกก็บอกว่า " ไปนอนห้องบ๊อบ จะเปิดแอร์ " พ่อกับแม่ก็งงเซ่อไปเลย

มองหน้ากัน อ้าว!ไหนว่ากลัวแต่ก็มิได้ทักอย่างที่คุณพ่อเณอแตมแนะแต่อย่างใดแล้วก็พาไปจนหลับในที่สุด ก็ต้องเรียนรู้ต่อไป

และตอนนี้พบเห็นความติดขัดของตนเองแล้ว อยากเข้าค่ายต่อยอดอยู่กับลูดให้สนุกไม่รู้จะมีที่นั่งไหมนอ
santana
 
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 21 ม.ค. 2012 9:51 pm

Re: floor time น้องบ๊อบบี้

โพสต์โดย santana » อังคาร 03 เม.ย. 2012 11:45 am

กลับจากค่ายอยู่กับลูกให้สนุก(ต่อยอด)มีความสุขมา...กสิ่งที่ได้ที่อยากบอกเล่าคือ

1.มิตรภาพและความเข้าใจที่สัมผัสได้ด้วยใจจากรุ่นพี่ที่มากประสบการณ์และยินดีพร้อมเต็มใจในการถ่ายทอด ขอบคุณมากค่ะ

2.จิ๊กซอตัวที่หนึ่งที่เก็บได้คือ...การรอคอย... จาก case ขณะเล่นกับลูก คุณแม่อุ้มบ๊อบอยู่หน้าประตูโดยเด็กมีเจตจำนงต้องการจะออก

จากห้อง พ่อคืออุปสรรคที่ขวาง แม่ก็เจตนาดีขยับจะพาลูกผลักประตูให้ถนัด (หวังผลอย่างแรงอีกแล้ว)ก็เลยโดนไปหนึ่งดอกว่า... แม่ขยับ

ทำไมครับ คุณแม่ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องขยับ ขณะขยับสมองใครทำงาน (ขณะที่อ่านกรุณานึกถึงเสียงครูพบ นะคะจะได้ฟิวมา...ก)

นั่นซิคะนานแค่ไหนที่บ๊อบบี้ถูกตัดโอกาสการเรียนรู้ด้วยความหวังดี จากประสบการณ์ ความกลัว และความกังวลของผู้ใหญ่

3.จ๊กซอตัวที่สองคือ..การรับรู้อารมณ์และความรู้สึกผ่านเกมภาษาต่างดาว..ตอนที่ครูถามว่ามีใครอยากลองเล่นกับผมไหม

และนั่นคุณแม่รู้เลยว่ามันคือโอกาสทอง เลยขอทันทีและก็ได้จัดเต็มดังคาด เมื่อการเล่นสิ้นสุดน้ำตาคุณแม่มันก็ไหลออกมา

เพราะหลังการเล่นคุณเม่รับรู้ถึงอารมณ์การได้รับการ release มันเป็นอย่างไร แล้วทำให้นึกความติดขัดของลูกหากเขาไม่ได้รับความเข้าใจ

น้ำตามันก็ไหลออกทันที ขอบคุณมากค่ะ

ค่ายต่อไปคือดูแลผู้หล่อเลี้ยงตื่นเต้นมากไม่รู้จะเจออะไร รู้เพียงแค่ว่ามันจะต้องมีบทสรุปที่ดี ดี ในตอนท้ายแน่นอน
santana
 
โพสต์: 15
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ 21 ม.ค. 2012 9:51 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ



cron