หน้า 5 จากทั้งหมด 9

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: อังคาร 23 ก.ค. 2013 9:07 pm
โดย สายป่าน
เอ่อม คุณหมอคะ
เสียงไม่ได้คาดคั้นนะคะ แบบชวนคุยไปเรื่อยๆ
คือไม่ได้สติแตกที่ลูกไปจุ๊บ
แต่มึนตึ๊บ ตรงที่ลูกฉัน เล่นไมเป็นนี่นา
ที่แฝงกังวลลึกๆคือ ลูกอ่านทีท่าคนอื่นไม่ออกเหรอ
หรือว่า พอจะรู้ล่ะ แต่ฉันอยากจะทำอย่างนี้
ฉันห้ามตัวเองไม่ไหวอ่ะ อยากเล่นแบบนี้อ่ะ
อ่านโจทย์ไม่ออก ไปต่อไม่ถูกค่ะ

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: พุธ 24 ก.ค. 2013 5:14 am
โดย กิ่งแก้ว
คุณแม่ก็คงต้องอ่านสถานการณ์กระมังคะ ว่าที่เด็กคนอื่นเค้าผลัก หนี น่ะ เค้ารำคาญมากแค่ไหน แค่ไม่อยากให้น้องมากวน ตอนเหงื่อท่วมตัว

หรือรู้สึกว่าถูกคุกคาม ก่อกวน จริง ๆ

ดิฉันไม่แน่ใจ เพราะอ่านสถานการณ์ไม่ออก คุณแม่เล่าส่วนของคุณแม่เยอะกว่าส่วนของเด็กอื่น ๆ

ที่ตอบอย่างนี้ ไม่ได้หมายความว่าดิฉันต้องการข้อมูลเพิ่ม

แต่หมายความว่าให้คุณแม่พิจารณาที่สถานการณ์เองว่าแย่จริง ๆ หรือเปล่า ปล่อยไปจะเสียหายไหม

ปัญหาที่แท้จริง อยู่ที่ท่าทีของเด็ก ๆ ทั้งสองฝ่าย

ถ้าดูแล้วว่าปล่อยไป เสียหาย ก็ไปหิ้วตัวออกจากสนาม ออกมาจัดการ

ถ้าไม่เสียหาย ก็ปล่อยให้เจอตอซะบ้าง

แค่นี้ค่ะ

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: พุธ 24 ก.ค. 2013 9:29 pm
โดย สายป่าน
ขอบคุณค่ะ คุณหมอ
ที่กระตุกให้แม่กลับมาอยู่ ณ เหตุการณ์นั้น
เพราะแม่เอาเหตุการณ์ก่อนหน้า เข้ามาปน
เอาความคาดหวังของตัวเองที่ไม่อยากให้ลูกเล่นอย่างนั้น มาเป็นตัวตั้ง
เพราะลูกเคยเล่าให้ฟังว่า เล่นอย่างนั้นกับเพื่อนกลุ่มอื่นแล้วเขาว่าเอา
แม่ก็พยายามชี้ว่า เล่นกับคนอื่นแล้วเขาว่าเอา ก็อย่าเล่นแบบนี้กับเพื่อน
แต่ตัวลูกก็ยังอยากเล่นแบบนี้อยู่
พอเห็นเหตุการณ์ซ้ำกับที่ลูกเคยเล่า ก็รู้สึกอย่างมากว่า แล้วจะเล่นแบบนี้ทำไมอีก
เดี๋ยวก็โดนอีก ไม่เข็ดหรือไง ประมาณนั้น
อันที่จริงมันก็เป็นอย่างที่คุณหมอติงน่ะค่ะ

ปัญหาที่แท้จริง อยู่ที่ท่าทีของเด็ก ๆ ทั้งสองฝ่าย

ถ้าดูแล้วว่าปล่อยไป เสียหาย ก็ไปหิ้วตัวออกจากสนาม ออกมาจัดการ

ถ้าไม่เสียหาย ก็ปล่อยให้เจอตอซะบ้าง


แต่แม่น่ะแหละ ที่กังวล กลัวลูกจะเจอตอ เลยจี๊ดไปใหญ่

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: พฤหัสฯ. 25 ก.ค. 2013 5:47 am
โดย krongkan
สู้ๆ ค่ะ

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: พฤหัสฯ. 25 ก.ค. 2013 10:20 am
โดย Waraporn.2556
มาให้กำลังใจด้วยคนค่ะ รุ่นพี่ไปไกลแล้ว รุ่นน้องกำลังฝึกตามไปค่ะ :D

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ 26 ก.ค. 2013 1:08 pm
โดย สายป่าน
คุณหมอคะ
อาทิตย์หน้า พี่ ป.1 จะสอบ midterm เป็นครั้งแรกค่ะ
มีสัญญาณเตือนเล็กๆ มาจากคุณครูว่าเป็นห่วง
น้องทำงานไม่ทัน เขียนไม่ทัน
แต่มีให้กำลังใจแม่ว่า แต่น้องตามเนื้อหาทันนะคะ จากการถาม-ตอบในห้อง
แต่คุณครูหนักใจเรื่องเขียน และการสอบมีการเขียน กลัวน้องจะไม่ทัน
การเก็บรายละเอียด SI ไม่หมด ก็มีผลกันตอนนี้เหมือนกันนะคะ
ฝากท่านอื่นๆนะคะ อย่าลืมเก็บ SI
โดยเฉพาะกับน้องที่ภาษาเริ่มมา เริ่มดีแล้ว อย่านอนใจนะคะ
ภาษามาเร็วกว่าร่างกาย เรามักจะหลงลืมเรื่องร่างกายกันไป
แก้เรื่องร่างกาย ยิ่งโต ยิ่งยากค่ะ มีวิธีหลบเลี่ยงเรามากจริงๆ

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ 26 ก.ค. 2013 1:29 pm
โดย กิ่งแก้ว
"หากอยากรู้ว่าเค้ารู้จริงมั้ย ต้องใช้ทางถนัดของเขาในการสื่อสาร"

ถ้าให้คุณหมอกรีนสแปนเขียนเรื่องฟลอร์ไทม์ ป่านนี้พวกเราคงยังไม่ได้รู้จักฟลอร์ไทม์ เพราะท่านเขียนไม่ออก

แต่ที่พวกเราได้เรียน เป็นเพราะว่าท่านพูดใส่เทป ให้คนพิมพ์.....

และต้องไม่ลืมว่าคุณหมอกรีนสแปนเคยถูกวินิจฉัยว่าเป็น LD มาก่อน

ถ้าสายป่านจะสอบได้คะแนนไม่ดี เพราะเขียนไปทัน ก็คงต้องทำใจว่า จริง ๆ แล้วสายป่าน

สอบไม่ผ่านวิชาคัดลายมือ หรือเรียงความ

ไม่ใช่เรียนไม่ได้

สิ่งที่สายป่านต้องการจากแม่ คือความหนักแน่นค่ะ

ต้องคอยอีก 3-4 ปี เด็กตา (มิติสัมพันธ์ บวกกล้ามเนื้อไม่ค่อยทน ลายมือไม่สวย) จึงจะเบ่งบานค่ะ

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ 26 ก.ค. 2013 3:45 pm
โดย krongkan
เรื่องลายมือดิฉันใช้วิธีเชียร์ ปลอบ ให้รางวัล และเสริมฐานเรื่องกล้ามเนื้อมัดเล็กค่ะ รู้ตั้งแต่ต้นเทอมว่าเป็นปัญหาสำหรับครู

ก็เริ่ม ณ ตอนนั้นเลย เพราะตอน ป.1 ครูเห็นว่ายังโอเครับได้ แต่ขึ้น ป.2 เปลี่ยนครู ครูก็รับไม่ได้ และมาบอกกล่าวเหมือนว่า

จะจัดการเรื่องนี้ให้ได้ เหมือนเป็นการลั่นระฆังให้แม่ค่ะว่าต้องทำอะไรสักอย่างแล้วนะ ไม่งั้นลูกเจอดีแน่ 555

ดิฉันก็เอาไงดีหว่า ไม่เป็นไร งานบ้านทำอยู่แล้วก็เพิ่มดีกรีความเข้มข้นหน่อย เพิ่มงานละเอียดอีกเยอะๆ พาวาดรูปเล่นมั่ง

ทำกับข้าวมั่ง เล่นสมมติก็ใช้ดินพิเศษที่มีลักษณะเหนียวหน่อย เข้ามาเป็นตัวช่วย จะสร้างทาง สร้างสิ่งก่อสร้างก็ต้องออกแรง

ดึง ออกแรงดัน ออกแรงบีบ จำได้ว่าช่วงเวลานั้นนี่ ที่บ้านเน้นเล่นปั้นดินน้ำมัน ปั้นดินเหนียวกันตลอดค่ะ ผลงานยังวางอยู่เต็มเลย

เปิด-ปิดประตูรั้วเป็นหน้าที่ของเด็กๆ ล้างจาน ซักผ้า ฯลฯ ได้ใช้มือทั้งนั้นเลยค่ะ

ทาง รร คุณครูประจำชั้นที่เค้ารักก็จะคอยบอกเรื่องลายมือ เท่าที่ฟังๆ มาจากปากลูกก็ประมาณทั้งปลอบทั้งขู่ แต่เจ้าตัวโอเคก็โอเค

เพราะบรรดากระจอกข่าวทั้งหลายที่ รร ก็เคยเล่าให้ฟังว่าเจ้าตัวแสบลายมือแย่มาก ครูต้องประกบ แต่ว่าไม่ได้แย่คนเดียว มีอีก

2-3 คน เราก็เก็บไว้เป็นข้อมูล พอวันไหนครูที่รักทำสำเร็จ ลายมือสวยมาก ก็ชมก็เฮกันทั้งบ้าน บางทีปิดร้านเลี้ยงไอติมกันเลยค่ะ

อันนี้ก็เว่อร์ไปหน่อย แรกๆ ก็สวยมั่งไม่สวยมั่งค่ะ พอวิชาหนึ่งทำได้ ก็เริ่มสวยขึ้นเรื่อยๆ จนอยู่ตัว คุณครูวิชาอื่นก็บอกว่าไม่ยอมนะ

ต้องเขียนของครูสวยด้วย ไปๆ มาๆ เลยสวยหมดเลยค่ะ ตอนนี้ลายมือสวยมากค่ะ สวยจนไม่น่าเชื่อว่าจะสวยได้ แต่ก็เริ่มอยู่ตัว

ไม่แกว่งไปแกว่งมาแล้วค่ะ ซึ่งดิฉันไม่ได้ฝึกให้เค้านั่งเขียนเลยค่ะ เพราะรู้ว่าสงครามเกิดแน่ ใช้อย่างอื่นมาให้ทำอย่างสนุกสนานทั้งนั้น

พอได้ก็เฮ ไม่ได้ก็ปลอบ ไม่เป็นไรเอาใหม่ ส่วนเครดิตที่ทำได้ ดิฉันก็ยกให้คุณครูไป ครูไม่รู้หรอกว่า แม่แอบช่วยอะไรไปบ้าง 555

วิธีคิดอีกอย่างที่ดิฉันมักจะบอกตัวเองเวลาจะลืมตัวหวังผลนะคะ อันนี้ก็ได้มาจากประสบการณ์โดยตรงของตัวเองด้วยค่ะ ดิฉันมักจะคิดว่า

ไม่มีใครเบ่งบานจากการถูกตำหนิถูกว่ากล่าวทั้งกริยาและวาจา แต่คนเราจะเบ่งบานจากคำชื่นชมอย่างจริงใจจากคนที่เรารักต่างหาก

เห็นด้วยไหมคะ

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: ศุกร์ 26 ก.ค. 2013 5:06 pm
โดย สายป่าน
ขอบคุณค่ะคุณหมอ คุณ krongkarn
ตัวดิฉันเองน่ะ ยอมรับความจริงข้อนี้อยู่แล้วค่ะ
ลูกเขียนไม่สวย ก็รับได้ค่ะ เพราะที่สำคัญกว่าลายมือ
คือตัวสารที่เขาสื่อ ออกมา เราเข้าใจได้ค่ะ
ความรู้สึกเจ้าตัวสิคะ ตอนนี้สำคัญกว่า
ตอนนี้เขาตอบคำถามในห้องได้ค่อนข้างดี ภูมิใจ
และเขาเริ่มรับรู้มาตั้งแต่อนุบาลว่าผลคะแนน ลำดับที่คืออะไร
สิ่งที่ดิฉันต้องทำต่อ คือ อยู่ข้างเขาในวันที่ผลสอบไม่เป็นอย่างที่เจ้าตัวหวัง
เพราะวัดผลที่การเขียน ไม่ใช่ถามตอบ อย่างที่ถนัด
วันนี้ขอมารายงานความเป็นไป และเตือนเพื่อนๆน่ะค่ะ
ขอบคุณ คุณ krongkarn ที่เข้ามาปลอบใจ
มาช่วยกันลุ้นให้หลานผ่านด่านนี้กันดีกว่านะคะ

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์เมื่อ: พุธ 14 ส.ค. 2013 2:16 pm
โดย สายป่าน
จากที่ส่งไปเรียนฟุตบอล แม้จะไม่กี่ครั้งก็ตาม
แต่เห็นได้ว่า เขาเริ่มใช้ร่างกายได้ดีขึ้น
ได้มีสถานการณ์ให้เขานำสิ่งที่ทำในห้องฝึกมาใช้จริง
ได้มีโอกาสทำตามกลุ่มเพื่อน
ที่สำคัญ
ประกายตา วิ้งๆ ของตัวแสบ ตอนที่ทำอะไรใหม่ๆ (สำหรับเขา)ได้เนี่ยค่ะ
หัวใจกองเชียร์ พองเลยค่ะ :D
แต่ก็มีใจแฟบเหมือนกัน
ตอนลากกันไปสนาม บ่นไปตลอดทาง
ไม่อยากไป ไม่อยากเรียน จะถ่วงเวลาให้เวลาหมด จะได้ไม่ต้องเรียน
หน้าหงิกหน้างอ กันทั้งแม่ทั้งลูก มาเรียน
แล้วพอวิ่งเข้าสนามไป ทำไมหน้าบาน
ตั้งอกตั้งใจวิ่งแข่งจับเวลากับเพื่อน หัวเราะ หน้าบาน
เรียนเสร็จก็ไม่อยากกลับ ขึ้นรถได้บ่นต่อ ไม่อยากมาเรียนเลย
พรุ่งนี้ไม่ต้องมานะแม่ โอเคนะ
แล้วจะไปต่อกันอย่างไรดีคะ :?