ขอคำแนะนำค่ะ

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย patcha » เสาร์ 06 เม.ย. 2013 8:57 am

เจอเหมือนกันค่ะ เล่นชู้ตบาส พอเห็นแม่ทำแต้มนำก็เริ่มไม่ยอมเล่นต่อ ทั้งๆที่ยังไม่ถึงแต้มที่ตกลงกันไว้(10ลูก)

วันหลังแกล้งปล่อยให้นำ ก็จะเล่นต่อได้

วันหลังให้เธอชนะ แล้วแม่ก็เล่นต่อ(บอกเขาว่าจะซ้อมไว้สู้)

คราวนี้พอเธอทำแต้มได้ชนะ เธอเก็บลูกบาสเข้าตู้เลย ไม่ยอมให้แม่เล่นต่อ (ตื้อบอกขอซ้อมก็ไม่ยอม)

ตอนหลังถ้าทำแต้มนำเธอ ก็จะนำแค่แต้มเดียวให้เธอตามแล้วก็นำบ้าง ก็เล่นได้นานขึ้น

ตอนนี้ชวนเล่นบาสได้ง่ายมาก (จากเดิมที่เธอไม่เคยเล่น) เมื่อใดที่แม่เล่นเธอจะเล่นด้วย เริ่มจะแพ้ลูกจริงๆแล้ว เพราะแรงแม่เริ่มถดถอยแต่ลูกแข็งแรงขึ้น

เวลาเธอชู้ตแม่ก่อกวนโดยใช้มือปัดเธอยังรับไม่ได้ แต่ถ้าก่อกวนแบบส่งเสียงเธอวิ่งไปเอาหูฟังมาใส่จะได้ไม่ได้ยินเสียงแม่

เรื่องเถียงถ้าเธอไม่ผิด เถียงแบบสู้ตายเลย

เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงขึ้น จากที่ขึ้นไดโนเสาร์แบบคืบ ตอนนี้เธอขึ้นแบบไต่ยกก้นได้ แต่ราวโหนยังได้น้อยอยู่

วิ่งขึ้นทางลาดก็สามารถวิ่งครั้งเดียวขึ้นได้หลายครั้ง ดันฝ่ามือกันเริ่มจะสู้ลูกไม่ได้

เรื่องกินไม่ห่วงเลย เข้าสังคมเริ่มดีขึ้น ไปที่ทำงานแม่แล้วไปเล่นห้องโน้นห้องนี้ได้ คุยกับคนอื่นได้จนบางครั้งอดคิดไม่ได้ว่ามันเยอะไปหรือเปล่า เข้าใจว่าความมั่นใจในตัวเองพึ่งเริ่มมา

ปูเป้เอาการบ้านมาให้เยอะเลย ทำให้รู้ว่ามีคนคิดเก่งทำมากกว่าเราอีกเยอะ

แล้วจะไปเจออาจารย์วันที่ 29 มิย.แน่นอนค่ะ
patcha
 
โพสต์: 13
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 21 พ.ค. 2012 10:24 am

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » เสาร์ 06 เม.ย. 2013 4:21 pm

ดีค่ะ แข่งกันสร้างสรรค์ แข่งกันพัฒนา แล้วมาแลกเปลี่ยนร่วมยินดีด้วยกันค่ะ

สำหรับกิจกรรมที่คุยกันเรื่องแพ้ชนะน่าจะอยู่ในหัวข้อ "ความกลัวและความวิตกกังวล" เดือนถัด ๆ ไป (จำไม่ได้) ซึ่งรอบนั้นต้องเชิญชวนคุณแม่ทั้งสองท่านให้แชร์เต็มที่เลยนะคะ รู้สึกว่าทั้งสองท่านคงมีครบทุกรูปแบบเลยค่ะ ตั้งแต่กลัวคนแปลกหน้า การแยกจาก การบาดเจ็บ การสูญเสีย จินตนาการ อารมณ์ลบ พ่ายแพ้ เสียหน้า
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย สายป่าน » อาทิตย์ 14 เม.ย. 2013 5:39 am

เมื่อวานมีหลาน(ลูกของเพื่อนน้อง) มาเล่นที่บ้าน ซึ่งปกติมักจะเล่นของเล่นกันในห้อง
เพราะมักจะมาถึงกันตอนเย็นใกล้ค่ำ ในสนามเริ่มมียุงเยอะ เลยไม่ค่อยได้เล่นกัน
แต่เนื่องจากเมื่อวานเป็นวันสงกรานต์ เลยมาเล่นน้ำกันตั้งแต่บ่าย
เล่นกันตัวเปียก ไม่ได้ขึ้นบ้านกัน จึงต้องหาอะไรเล่นกันในสนาม
คุณยายนึกอย่างไรไม่ทราบ ไปลากจักรยานคันเก่าที่สายป่านถีบไม่ได้สักที
มาให้พ่อของหลานลองดูอีกครั้ง เพราะเวลาที่เราหมุนล้อ ก็จะรู้สึกได้ว่ามีอะไรฝืดที่ล้อพยุง
เคยเอาไปซ่อมหลายครั้งก็ไม่หายประมาณว่า ถ้ายกรถหน่อยนึงให้ล้อพยุงลอยขึ้น ก็จะถีบได้
แต่ถ้าวางลงก็ถีบไม่ได้ ร้านแนะนำว่า ถอดล้อพยุงออกก็จะใช้งานได้
ทำเอาเราแอบค้อน มีสี่ล้อลูกฉันยังทรงตัวไม่ได้ จะให้ถอดล้อ แล้วลูกฉันจะถีบได้ไง
แต่ปรากฏว่ามีสี่ล้อก็ถีบไม่ไปอยู่ดี จนแม่กับยายจะซื้อจักรยานใหม่อยู่แล้ว
หลานเห็นจักรยานก็คว้าไปถีบ รถวิ่งฉิว สายป่านยืนตะลึง ประมาณว่า ขี่ได้ไงเนี่ย :o
หลานขี่โฉบเฉี่ยวยั่วอยู่ ถีบในสนามหญ้าก็ถีบได้ ถีบบนถนนปูนก็ได้
สักพัก เจ้าของรถวิ่งตาม ไปยื้อยุด ประมาณว่ารถฉัน
หลานก็ไม่สนใจ ยิ่งขี่ยั่ว คุณยายก็เลยส่ง scooter ให้
เลยได้เห็นความต่างของเด็กสองคนอย่างชัดเจน
สายป่านไถ scooter ก็ไม่ทันจักรยาน แต่คนขี่จักรยานน่ะเริ่มชะลอหยุด
เพราะมีของเล่นใหม่ เลยแลกกัน เจ้าของจักรยานพยายามถีบ เหมือนเดิม มันไม่ฉิว
แต่สิ่งที่เปลี่ยนไป คือ พยายามก้มหน้าก้มตาถีบ ไม่ถีบสองแย็กแล้วเลิก
แล้วก็เหมือนเดิมโดน scooter ยั่ว ไล่ทัน
คุณยายก็นำเสนอของเล่นใหม่อีก ประมาณว่าอันนี้หลานฉันเล่นได้ น่าจะไม่แพ้
เป็นรถที่ใช้บังคับล้อโดยการโยก ก็เหมือนเดิมคือประมาณว่า
เครื่องเล่นไหน เจ้าหลานชายก็เล่นได้คล่องไปหมด ฝ่ายลูกเราก็ไม่ทันเขา
หนักเข้า สายป่านเลยชวนน้องขึ้นบ้าน ไปเล่นเกม (ของถนัด)
ประมาณว่าอันนี้สู้ไม่ได้ ไม่สนุกอ่ะ ไปเล่นไอ้ที่ฉันถนัดดีกว่า
แต่ผู้ใหญ่ทุกคนรับลูกว่าตัวเปียก ยังไม่ให้ขึ้นบ้าน รอตัวแห้งกันก่อน
เลยเป็น ไฟลท์บังคับกันกลายๆ ว่าต้องหาอะไรเล่นกันข้างล่าง
คนของเราก็พยายามเกลี้ยกล่อมสุดฤทธิ์ ให้น้องเล่นอย่างอื่นที่ตัวเองคิดว่ามีโอกาสชนะ
เช่นวิ่งไล่จับ (อันนี้พอสูสี) แม่เลยลงไปเล่นด้วย ยอมอ่อยๆ ให้เด็กจับได้ง่ายๆ แล้วเป็นฝ่ายไล่
อันที่จริง ก็วิ่งเยอะไม่ไหวน่ะค่ะ แต่ถ้าเป็นฝ่ายไล่ เราแอบพัก แล้วค่อยดักจับได้
ฝ่ายหนีก็หนีกันสนุกสนาน แถมเล่นได้นาน เพราะตั้งหน้าตั้งตาจะมาแปะผู้ใหญ่เนี่ยล่ะ
คงชอบที่ชนะผู้ใหญ่ได้ :D
เห็นงานเรื่องร่างกายที่ยังรออยู่ค่ะ เห็นคุณพ่อที่ลงมารับรู้ปัญหามากขึ้น และเห็นว่ากำลังจะช่วยกันซ้อม
จากเดิมที่ประมาณว่า โตขึ้น ร่างกายแข็งแรงขึ้น ก็ทำได้เอง เรื่องปกติ ทำไม่ได้ก็ไม่อยากทำ
แม่อย่ากังวลมาก chill chill น่า แล้วก็ชี้ประเด็นให้แม่ดูว่า
เวลาไปที่สนามเด็กเล่นในร่ม พื้นกระเบื้อง ลูกก็ขี่ได้ จักรยานที่บ้านเสียมั้ง
คราวนี้พ่อคงเปลี่ยนความคิดแล้ว จักรยานไม่ได้เสีย แต่ลูกต้องการความช่วยเหลือ
เห็นคนของเราที่ประเมิน และหาสิ่งที่ตัวเองคิดว่าจะชนะมาโน้มน้าวน้อง
เห็นความพยายามที่จะทำให้ได้ตามเพื่อน ได้เห็นอะไรดีๆหลายอย่างค่ะ ;)
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » อาทิตย์ 14 เม.ย. 2013 6:01 am

ดีใจด้วยค่ะ

ดิฉันก็เคยแนะนำผู้ปกครองบางคนให้ "จัดฉากการเปรียบเทียบ" ให้ผู้ที่ยังไม่เข้าใจปัญหาของเด็ก

ได้เข้าใจมากขึ้นว่าเด็กของเราต้องการการฝึกฝนจริง ๆ

ตรงนี้ก็ต้องขอบใจสถานการณ์วันสงกรานต์

ขอบใจเด็กที่มาเล่นด้วย ที่ช่วยให้เห็นทั้งข้อดีของเด็กเราที่ใจพร้อมจะสู้ และร่างกายของเขาที่ต้องการฝึกฝน
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย สายป่าน » อาทิตย์ 21 เม.ย. 2013 10:11 am

พบคุณหมอแก้วตาครั้งล่าสุด
คุณหมอแนะนำให้ทำการบ้านเพิ่มในเรื่องการลำดับเหตุการณ์
เพราะคุณหมอชวนคุยแล้วสายป่านเรียงลำดับเหตุการณ์ไม่ค่อยต่อเนื่อง
ลองเปลี่ยนให้วาดรูปประกอบการเล่า ก็ยังไม่ค่อยดี
ผ่านบทบาทสมมติ ก็ยังลำดับเรื่องราว งง งง
พอมาทบทวนก็เห็นตัวเองว่า เวลาให้ลูกเล่าเรื่องราว มักใจไม่เย็นพอ
จะแทรกถามตรงกลาง ประมาณว่าเป็นการเล่าเรื่องโดยผ่านการตอบคำถามแม่
เป็นถามตอบ เสียส่วนใหญ่ ถึงจะเป็นการเล่าเรื่อง แต่แม่ก็ยังต้องถามนำมากอยู่
เวลาปล่อยให้เล่าเอง ไม่น่าเกิน 5 ประโยค จบเรื่อง
แล้วแม่ก็เลยมาถามต่อ โน่น นี่ นั่น จนตอนนี้ลูกชินกับการเล่าผ่านการถามของแม่
ขอคำแนะนำค่ะ ว่าจะเพิ่มเติมเรื่องนี้อย่างไรดี
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » อาทิตย์ 21 เม.ย. 2013 10:31 am

ให้ผ่านการเล่นสมมุติค่ะ เพราะเป็นเหตุการณ์ตรงหน้า เล่นสมมุติเก่งเมื่อไร จึงจะเล่าเรื่องเก่งค่ะ

แต่การจะเล่นสมมุติเก่ง ต้องควบคู่กับมีประสบการณ์ในชีวิตจริง และมีคำศัพท์มากพอ

เล่นไปเถอะค่ะ อย่าเล็งจุดอ่อน อย่ามองน้ำส่วนที่ยังขาดยังพร่อง ให้มองที่ระดับน้ำที่กำลังค่อย ๆ เพิ่มขึ้นค่ะ แล้วถึงจะไปต่อได้ ไม่อย่างนั้นจะตกร่องเดิมค่ะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย สายป่าน » อาทิตย์ 21 เม.ย. 2013 3:22 pm

ขอบคุณค่ะคุณหมอ
เกือบไปแล้วค่ะ ตอนแรกก่อนที่จะได้รับคำตอบจากคุณหมอ
กะว่า ทุกเย็น จะให้สายป่านเล่ากิจกรรมต่างๆในแต่ละวัน
เช่น กลับบ้านกับคุณยายด้วยรถอะไร ทำอย่างไรถึงได้ขึ้นรถ
ให้ห้องธุรการเรียกแทกซี่ให้ หรือเดินไปโบกกันเอง รถสีอะไร
ขึ้นรถแล้วต้องทำอะไรต่อ รถวิ่งเส้นทางไหน
กลับถึงบ้านแล้วทำอะไรบ้าง ฯลฯ
คงได้ในเรื่องความจำล้วนๆ แล้วก็น่าเบื่อแน่เลย
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย สายป่าน » พุธ 29 พ.ค. 2013 11:07 pm

สายป่านย้ายโรงเรียนจากอนุบาลเดิม มาเป็นพี่ ป.1 ที่โรงเรียนใหม่
หลังจากผ่าน Summer และเปิดเทอมต้นมา 2 อาทิตย์
แม่สังเกตเห็นว่า เปิดเทอมต้นมา สายป่านมีสติกเกอร์ แปะปกเสื้อ
แม่ก็เลยแกล้งประหลาดใจ ถามว่า เอ๊ะ สติกเกอร์มาจากไหน เพื่อนให้มาเหรอ :o
เขาก็เลยเล่าให้ฟังว่า คุณครูให้มา ก็เลยถามต่อว่า ทำไมล่ะ
เขาก็เล่าให้ฟังว่า วันนี้เขียนสวย แม่ชมเขาว่า เจ๋งนะเนี่ย เขียนสวย จนคุณครูให้สติกเกอร์มา
ป่านต้องตั้งใจเขียน แน่ๆเลย แล้วรู้สึกอย่างไรบ้างล่ะ ตอนได้สติกเกอร์เนี่ย
เขาตอบว่า ก็ดีใจน่ะสิ แล้วก็เล่าให้ฟังว่า ป่านเขียนสวย ไม่ออกนอกเส้นน่ะแม่ ป่านตั้งใจเขียนล่ะแม่ :D
ระหว่างที่เล่า เธอหน้าบานมาก ช่วงอนุบาลที่ผ่านมา งานเขียนเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมาก
วันไหนมีการบ้านที่ต้องเขียน วันนั้นจะนานมากกว่าจะเสร็จ เหนื่อยกาย ใจกัน ทั้งแม่และลูก :(
แต่หลังจากอยู่ที่นี่และได้สติกเกอร์เขียนสวยมา การบ้านคัดลายมือ กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับเธอ
ตอนเย็นมีอวดแม่อีกว่า วันนี้การบ้านภาษาไทย ง่ายมาก การบ้านเขียน ป่านทำแป๊บเดียวก็เสร็จ
เดี๋ยวคอยดูนะแม่ แล้วก็ไปตั้งอกตั้งใจเขียน แล้วก็เอามาอวด แม่ก็รับมุข ชมเชยกันไป
ชี้ตัวที่เขียนสวยๆ แล้วบอกแม่ชอบตัวนี้มากเลยอ่ะ ไม่ออกนอกเส้นเลย
แล้วปรากฎว่า ตัวอื่นๆหลังจากนั้นก็สวยมาเชียว ตัวไหนที่แม่รู้สึกว่าตกมาตรฐานไป
แม่ก็เลี่ยงไปถามขำๆ ว่า ตัวนี้มันเป็นอะไรไปเนี่ย ผอมเชียว สงสัยจะไม่ค่อยกินข้าว
หรือ ตัวนี้แม่ดูไม่ค่อยชัดเลยว่าตัวอะไร บ หรือ ป น้า ป่านว่าไงล่ะ เจ้าตัวก็มาจัดแจงแก้ไขด้วยดี ไม่เสียน้ำตา
แม่ก็ระวังที่จะไม่จับผิด ให้เขาแก้จนรู้สึกเบือที่จะทำ
ที่อยากเล่าให้คุณหมอฟัง ไม่ใช่ผลงานคัดลายมือของลูก
แต่แม่ดีใจตรงที่ แม่เริ่มเห็นความมั่นใจว่าตัวเองทำได้ มีคนยอมรับ
ซึ่งพามายังเรื่องการกล้ายกมือตอบคำถามในห้อง ที่ทำให้ได้สติกเกอร์ในวันหลังๆ ตามมาอีก
ซึ่งไม่เกิดในชั้นอนุบาล เคยถามไถ่กันได้ความว่า ไม่กล้าตอบบ้าง กลัวจะผิดบ้าง
แต่แม่ก็ยังต้องระวังและเตือนตัวเองอยู่ ว่าอย่าเพลินกับรางวัลที่ลูกได้มา
จนไปกดดันเขา หรือลืมงานอื่นที่ยังต้องทำอีก
แต่ช่วงนี้ก็ใช้เรื่องสติกเกอร์ เป็นตัวกระตุ้น ถามไถ่ถึงเรื่องราวที่โรงเรียนในวันนั้น
ซึ่งเธอก็เต็มใจเล่าเรื่องโน้น นี้ให้ฟัง ให้เราได้รับรู้เรื่องราว และมีโอกาสถามไถ่ความรู้สึกต่อเรื่องที่เขาเล่าให้ฟัง
อยากให้คุณหมอและท่านอื่น ช่วยแนะนำ และสะกิดค่ะ ว่าแม่ยังเดินตรงทางอยู่ หรือหลงลืมเรื่องอะไรอีก
ก็เห็นสิ่งที่คิดว่าเป็นดอกไม้สวยงามน่าชื่นใจระหว่างเดินทาง แต่ยังกล้าๆกลัวๆ ที่จะชื่นชมกับความงามนั้นค่ะ
กลัวจะเป็นภาพลวงตา
;)
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » พฤหัสฯ. 30 พ.ค. 2013 6:58 am

อ่านบทความแล้วรับรู้ได้ถึงความสุขของทั้งแม่และลูกนะคะ

แหม..แต่สุดท้ายออกระแวงเล็ก ๆ ก็คล้าย ๆ กันมังคะ ทั้งแม่และลูก :lol:
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ขอคำแนะนำค่ะ

โพสต์โดย สายป่าน » อังคาร 04 มิ.ย. 2013 12:42 pm

แวะมาเล่าให้คุณหมอฟังเรื่องสายป่านกับเสื้อกันหนาวค่ะ
ช่วงหนาวที่ผ่านมา สายป่านยังไม่ค่อยชอบใส่เสื้อกันหนาว
ไม่ใช่ตัวเองไม่หนาวนะคะ แต่ว่าไม่ใส่เพราะกลัวไม่เหมือนคนอื่น
กลัวไม่เหมือนเพื่อน ทั้งที่ตัวเองน่ะหนาว
เมื่อวานนี้ ก็คล้ายกับทุกวัน คือ ใส่เสื้อกันหนาวในรถ
เพราะแอร์รถแม่จะเย็นมากตอนเช้า ขนาดเบอร์ 1 ยังบ่นหนาว
แต่ที่ต่างกันไปคือ พอเธอถอดเสื้อกันหนาวแล้ว พับใส่กระเป๋า
คุณยายก็งง ถามว่า จะเอาไปด้วยหรือลูก หรือจะเก็บไว้ในรถแม่ดี
เจ้าตัวยืนยันว่า เอาไป เวลาตอนเย็นกลับรถน้าเอ แล้วหนาว ป่านจะได้มีใส่
คุณยายเลยชวนคุยต่อว่า เหรอลูก แล้วใส่แล้วเป็นอย่างไรบ้างล่ะ
เขาก็ตอบว่า ใส่แล้วป่านก็สบายขึ้นไง ไม่หนาว
ยายชวนคุยต่อว่า เออ แล้วถ้าตอนเย็นในรถไม่หนาวล่ะ เขาก็ว่า ป่านก็ไม่ใส่สิ
ถามต่อว่า แล้วไม่กลัวไม่เหมือนเพื่อนแล้วเหรอ
ป่านบอก ไม่เป็นไร ป่านหนาว ใส่เสื้อสบายกว่า ไม่ต้องหนาว
สิ่งที่รู้สึกคือ รู้สึกดี ที่เขาเริ่มแก้ปัญหาเองว่า หนาวก็ใส่เสื้อ แล้วเตรียมของตัวเองไป :D
เพราะปีนี้เป็นปีแรกที่เขากลับรถโรงเรียน ก่อนหน้านี้คุณยายรับส่งตลอด
ปีนี้ ตอนเช้าแม่ไปส่ง ตอนเย็นกลับรถของผู้ปกครองที่รับ-ส่งเด็กแถวบ้าน
เพราะจะถึงบ้านเร็วกว่ารถของโรงเรียน
แต่กว่าจะยอมกลับรถของน้าเอ อย่างเต็มใจ คุณยายต้องไปกับน้าเอด้วยสักอาทิตย์
ถึงจะเริ่มสบายใจ และกลับได้อย่างเต็มใจ เฮฮากับเพื่อนวัยเดียวกันอีก สามสี่คนในรถ
ตอนแรกก็มีปัญหาบ้างเหมือนกัน กับพี่โตสุดในรถ
แต่ด้วยขนมของคุณยาย ก็พอจะช่วยประสานได้ และคุณยายให้ความสำคัญพี่โตในการแจกขนมน้อง
พี่ก็เปลี่ยนบทบาทมาดูแลน้อง และเปลี่ยนมาเล่นด้วยกันในเวลาต่อมา ;)
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ