ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย เอดา » อาทิตย์ 24 มิ.ย. 2012 11:33 am

ดิฉันพึ่งได้รับการวินิฉัยว่าลูกชายเป็นแอสเพอร์เกอร์ค่ะ น้องอายุ 8 ปี ลูกขาดความยืดหยุ่นและค่อนข้างชอบสั่งมากกว่า ชี้นำ ลูกมีสติปัญญาระดับสุพีเรีย ในใบวัดไอคิวว่าไม่สามารถระบุสมาธิสั้นได้ แต่คุณหมอระบุว่ามีสมาธิสั้นร่วมเล็กน้อย ไม่มีปัญหาในชีวิตประจำวันค่ะ ความสามารถสูงทั้งเรื่องการพูดคุย การเรียนวิชาหลัก แต่วิชาที่ไม่ชอบจะไม่สนใจและไม่ค่อยให้ความร่วมมือ น้องขาดด้านทักษะสังคม และการเล่นที่ยืดหยุ่น ทำให้ไม่เข้าใจในการเล่นร่วมกับเพื่อนๆ เริ่มมีการแสดงออกทางพฤติกรรมที่รุนแรงคงเนื่องจากเกิดความคับข้องใจในการบอกความรู้สึกตนเองให้ผู้อื่นเข้าใจได้ และเริ่มถูกเพื่อนล้อและแกล้ง ความกังวลของดิฉันคือเนื่องจากน้องเป็นเด็กที่มีประสาทสัมผัสที่ไวมาก และทุกครั้งที่ครูดุหรือต่อว่า อาจทำให้น้องหมดความภาคภูมิใจตนเอง เพราะหลังๆนี้น้องจะบอกว่าไม่มีใครรักน้อง และมีแต่คนต่อว่า แต่น้องไม่รู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ

ดิฉันได้อ่านหนังสือสองเล่มของคุณพุทธิตา คืออยู่ได้และอยู่ดีกับฟลอร์ไทม์กับเด็กออทิสติก และได้พิมพ์เพื่ออ่านทำความเข้าใจเบื้องต้นและพึ่งร่วมเล่นกิจกรรมต่างๆ ตามพัฒนาการระดับต่างๆ ที่แนะนำค่ะ

คำถามแรกค่ะ ดิฉันมีความสนใจในการเข้าร่วมสัมมนาสองงานแต่ไม่มั่นใจว่าเหมาะสมหรือไม่ รบกวนคุณหมอแนะนำค่ะ วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน ฟลอร์ไทม์กับพัฒนาการอารมณ์ และ วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม วิเคราะห์เจาะลึกพัฒนาการ 5-6 ดิฉันสามารถร่วมได้ทั้งสองวันค่ะ

ลูกชายเดิมเป็นเด็กที่เลี้ยงง่าย ไม่มีปัญหาในการพูดสื่อสาร กิจวัตรประจำวันยืดหยุ่นได้ดี แต่ตอนนี้น้องเริ่มเรียกร้องสิ่งที่ต้องการมากขึ้นแต่เมื่อมีการตกลงกันก่อน, บอกล่วงหน้า หรืออธิบายเหตุผลก็ไม่เป็นปัญหาใดๆ ให้คุณแม่ยุ่งยาก แต่ที่โรงเรียนน้องมักไม่ให้ความร่วมมือ และเริ่มมีพฤติกรรมรุนแรงกับเพื่อน ทำให้เพื่อนบางกลุ่มกลัวที่จะเล่นด้วย และมีบางกลุ่มชอบล้อในความไม่เข้าใจภาษาและเริ่มรุมแกล้งน้อง ทุกครั้งจบลงที่การลงมือเพราะน้องก็ไม่ยอมเช่นกัน เมื่อครูสอบถามน้องก็ไม่สามารถบอกเล่ารายละเอียดกับคุณครูได้ (แต่ทุกครั้งที่คุณแม่คุยกับน้องหลังจากทราบเรื่อง น้องจะเล่าให้ฟัง อาจเป็นเพราะคุณแม่ได้ใช้การสะท้อนอารมณ์และคำถามเชิงชี้นำแบบมีให้เลือก)

ขณะนี้น้องเหมือนเป็นนักเรียนป่วนในห้องเนื่องจากมีสมาธิสั้นร่วม เมื่อไรที่ครูสอนไม่สนุกหรือมีสิ่งกระตุ้นความสนใจน้องไปทิศทางอื่น น้องจะไปให้ความสนใจ ทำให้ครูต้องเสียสมาธิในการสอน (มีเหตุการณ์อีกมากที่น้องสร้างปัญหาในห้องเรียน ซึ่งทางผปคท่านอื่นๆ ก็มาบ่นเรื่องน้องให้คุณแม่ฟังว่า น้องซนจนลูกเรียนไม่รู้เรื่อง หรือน้องไปตีเพื่อนคนอื่นๆ) ซึ่งทางคุณแม่ได้ให้คุณหมอไปพูดคุยกับครูใหญ่เรื่องการดูแลและการช่วยเหลือน้องในโรงเรียน ซึ่งทางครูใหญ่ได้ขอให้มีครูประกบที่สามารถช่วยน้องในโรงเรียน เพื่อเสริมสิ่งที่น้องขาด เช่นการสร้างทักษะสังคม และการกระตุ้นให้มีสมาธิในห้องเรียน

คำถามสองค่ะ ดิฉันจำเป็นต้องหาครูประกบที่เหมาะกับความต้องการน้อง (ครูที่สามารถดูแลเด็กพิเศษ) หรือเป็นแค่ครูผู้ช่วยก็ได้ค่ะ เพราะทางโรงเรียนบอกว่าแค่ครูผู้ช่วยก็พอ รบกวนคุณหมอแนะนำด้วยค่ะ

น้องมีการรับรู้ทางตาได้ดีกว่าทางหู ซึ่งพบปัญหาคือน้องดูวีดีโอหรือการเรียนรู้ที่เป็นเรื่องราว น้องจะอินและเหมือนโดดเข้าไปในเรื่องด้วย ทำให้เด็กคนอื่นไม่มีสมาธิดู

คำถามที่สามคือ เราควรช่วยน้องอย่างไรดีค่ะ ให้น้องร่วมดูหนังกับเพื่อนๆ หรือไปดูในโรงหนังได้ (เคยพาไปแค่หนึ่งครั้ง ซึ่งน้องไม่สามารถอยู่ได้ เพราะกลัวเสียงสัตว์) ขอคำแนะนำค่ะ

ทางบ้านก็คัดกรองไม่ให้เป็นเกมต่อสู้หรือดูทีวีที่แสดงออกถึงการต่อสู้และก้าวร้าว และกำหนดให้น้องเล่นได้แค่วันละ 30 นาที ยกเว้น ศ-ส ที่ได้ 1 ชม แต่ทุกครั้งน้องก็จะขอเพิ่มอีก 5 นาที จนกลายเป็นนิสัย ซึ่งบางครั้งเราก็ไม่ให้

คำถามที่สี่คือ ดิฉันควรทำอย่างไรเรื่องเกมหรือทีวี ควรงดหรือกำหนดเช่นเดิมค่ะ ขอคำแนะนำค่ะ

ดิฉันร่วมเล่นสมมุติและเล่นเกมกับน้อง ซึ่งให้น้องเป็นผู้นำและดิฉันสร้างอุปสรรคหรือขัดขวางเพื่อให้น้องแก้ปัญหาในการเล่น แต่ทางคุณหมอที่น้องหาอยู่บอกว่าน้องควรมีการหยืดหยุ่นในการเล่นเพราะเป็นชอบจะนำตลอดการเล่นและควรถามให้น้องพูดในสิ่งที่ต้องการออกมาเช่นอารมณ์ต่างๆ ในขณะเล่น

คำถามที่ห้าคือ ดิฉันควรเปลี่ยนจากการให้น้องนำการเล่น เป็นการเล่นตามความต้องการเราบ้างใช่ใม๊ค่ะ (มีหนังสือเล่นไหนแนะนำไม๊ค่ะ)

สอบถามคุณหมอหลายข้อที่เป็นประเด็นหลักๆ ในการปรับพฤติกรรมสำคัญก่อนค่ะ รบกวนเวลาคุณหมอในการให้คำแนะนำด้วยค่ะ

เอดาแม่น้องชาย
เอดา
 
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 24 มิ.ย. 2012 10:21 am

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » อาทิตย์ 24 มิ.ย. 2012 5:17 pm

ตอนแรกอ่านคำถามคุณแม่ รู้สึกอุ่นใจที่คุณแม่บอกเล่ารายละเอียด และได้ทอลองวิเคราะห์ปัญหาของลูกด้วย

แต่พอถึงบรรทัดสุดท้าย

"สอบถามคุณหมอหลายข้อที่เป็นประเด็นหลักๆ ในการปรับพฤติกรรมสำคัญก่อนค่ะ"

อันนี้ตรงกันข้ามกับเรา

เราจะพยายามแก้ปัญหาพฤติกรรมเป็นเรื่องสุดท้าย

เพราะอะไร ? ...เพราะเราเชื่อว่าพฤติกรรมคือดัชนีชี้วัดความไม่ปกติสุขของเด็ก

หน้าที่ของเรา คือพยายามสร้างความปกติ โดยไม่จับจ้องคิดแต่จะแก้ปัญหาพฤติกรรม

เพราะทันทีที่จับจ้อง จะเกิดการหวังผลลัพท์

เมื่อพ่อแม่คาดหวัง ท่าที กริยาอาการจะเป็นฝ่ายตรงข้ามกับลูกทันที

ด่านนี้...ไม่ใช่จะฝ่ากันง่าย ๆ

ผู้ปกครองในเว็ปนี้บางท่านใช้เวลาเป็นปี ยังฝ่าไปไม่ได้...

ก็ต้องเริ่มที่ตัวเองค่ะ

กิจกรรมวันเสาร์ที่จะถึงนี้ก็น่าจะมีประโยชน์ค่ะ ดิฉันจะไปแจมกับครูพบด้วย

ระหว่างนี้อยากให้คุณแม่พาลูกไปประเมินกับครูหยก เพื่อจะได้ประเมินระบบ SI ของเขา หรือไม่ก็หาครูพบ เพื่อประเมินระดับพัฒนาการ

จากนั้นก็หาโอกาสเข้าค่ายของครูพบ ดิฉันเข้าใจว่าค่ายต้นสิงหาคม "เยียวยาใจผู้หล่อเลี้ยง" น่าจะเหมาะกับคุณแม่ค่ะ

ขอเชิญคุณแม่สายป่าน คุณ Krongkan และท่านอื่น ๆ ช่วยให้ความคิดเห็นด้วยค่ะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » อาทิตย์ 24 มิ.ย. 2012 5:23 pm

คำถามเรื่อง ใครควรนำใครในการเล่น ขอยังไม่ตอบนะคะ มันไม่ใช่เรื่องของเทคนิค แต่เป็นเรื่องของหลักการ

แปลกดีนะคะ ฟลอร์ไทม์ให้เด็กนำการเล่น แต่สุดท้าย เราได้เด็กที่ยืดหยุ่น มีจินตนาการเสมอ

เรื่องบางอย่างต้องอธิบายกันนาน

ค่อย ๆ เรียนรู้ไปค่ะ

หนังสือและ DVD ทั้งหมด มีแนะนำในเว็ปนี้แล้วค่ะ

อย่าลืมอ่านบทความ เรื่อง แอสเพอเกอร์ ที่เตรียมเอาไว้ให้แล้วนะคะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 25 มิ.ย. 2012 8:41 am

สวัสดีค่ะคุณเอดาแม่น้องชาย ดิฉันเป็นคุณแม่ FT ใช้มาเกือบ 3 ปีแล้วค่ะ
และเลือกที่จะฝังตัวเองอยู่ในเส้นทางนี้อย่างแน่นอนแล้ว คงเพราะชอบและศรัทธาในแนวคิดทั้งหลาย
ก่อนหน้าที่จะเลือกก็ศึกษา ปฏิบัติและเห็นผลจริงก่อนค่ะ มันจึงจะยั่งยืน มั่นคง แต่ขนาดว่าศรัทธา และ
เชื่อมั่น และยึดถือปฏิบัติแล้ว ก็ยังมีด่านอุปสรรคคือตัวเราเองนี่แหละค่ะที่สำคัญที่สุด การจะใช้ FT
ให้ทรงประสิทธิภาพ พ่อแม่ต้องเป็นคนลักษณะที่เอื้อและพ้องต่อแนวคิดนี้ เป็นยังไงเหรอคะ อืม...
ต้องอยากเป็นเพื่อนยากกับลูก อยากเห็นลูกมีความสุขในแบบที่ลูกเป็น อยากรับรู้ปลอบโยนลูกยามลูก
ทุกข์ใจ รักลูกแบบไม่มีเงื่อนไข ฯลฯ อีกมากมายที่ดิฉันนึกไม่ออกในตอนนี้ ฟังดูเหมือนของง่ายนะคะ
พ่อแม่ทุกคนก็อยากเป็นแบบนี้แหละ แล้วมันขัดแย้งกับตัวตนของเราอย่างไร นั่นสิคะ ขัดแย้งกันยังไง
นี่คงเป็นโจทย์ยากโจทย์แรกสำหรับพ่อแม่กระมังคะ ที่ต้องสำรวจตัวเองอย่างจริงจังว่าเราเองมีคุณสมบัติ
ที่สอดคล้องกับ FT แล้ว"จริงๆ"หรือยัง เพราะในเส้นทางนี้ การจะปรับลูกนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ ถ้าปรับ
พ่อแม่ได้ ใช้เวลาค่ะ ดิฉันเองตอนแรกก็คิดว่าปรับได้แล้ว แต่พอเวลาผ่านไปเรื่อยๆ สำรวจตัวเองไปเรื่อยๆ
ก็พบว่าตัวเองก็ต้องปรับให้ดียิ่งขึ้นและดียิ่งขึ้นไปอีก พัฒนาการทุกอย่างไม่มีจุดสิ้นสุดค่ะ มันยังมีต่อไปเรื่อยๆ
จริงๆ
ถึงตอนนี้ก็อยากจะบอกคุณแม่ว่าคุณแม่และคุณลูกโชคดีแล้วค่ะที่ค้นพบเส้นทางนี้ ศึกษาให้ถ่องแท้ ทดลองใช้
เมื่อเห็นผลแล้ว คุณแม่จะตอบตัวเองได้เองว่าเส้นทางนี้หอมหวานเพียงไร
การเข้าอบรมหรือเข้าค่ายทั้งหมดในเวปนี้ หากคุณแม่สามารถเข้าร่วมได้โดยไม่เสียอะไรไปมากมายนั้น
ดิฉันแนะนำว่าเข้าเถอะค่ะ ดิฉันเองเก็บเกี่ยวความรู้ แนวคิด เพื่อนำมาปรับปรุงตัวทุกครั้งจริงๆ หลังการเข้าร่วม
ดิฉันพบว่ามีแรงผลักดันสำคัญให้ดิฉันได้ก้าวหน้าขึ้นไปทุกครั้งจริงๆ และลูกก็ก้าวตามมาเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อน
ตามแรงที่ดิฉันจะออกก้าวเดิน
ระหว่างนี้แนะนำให้คุณแม่ศึกษา FT ทั้งจากหนังสือ ประสบการณ์จากคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ และลงมือปฏิบัติจริงค่ะ
ติดขัดตรงไหนก็เขียนมาถามกัน ที่นี่มีคุณหมอ คุณครูและผู้ปกครองที่มีประสบการณ์คอยช่วยตอบข้อสงสัยค่ะ
ดิฉันเชื่อค่ะว่าถ้าคุณแม่ลองทำดูสักระยะเพื่อให้เข้าใจ คำตอบเรื่องพฤติกรรมต่างๆ ของลูกจะค่อยๆ หมดไป
ที่บอกว่าหมดไปเพราะเราจะเข้าใจค่ะ ว่าเพราะอะไรลูกจึงมีพฤติกรรมอย่างนั้น และต้องปรับต้องแก้จุดไหนของ
เราเพื่อเอื้อต่อการช่วยส่งเสริมลูกต่อไป รวมทั้งต้องทำอย่างไรเพื่อเติมเต็มระบบบางอย่างของลูกที่ไวเกิน เฉื่อยเกิน
ใช้เวลาค่ะ แต่อย่าหยุดและอย่าท้อเป็นพอค่ะ คุณแม่โชคดีที่ไม่ต้องห่วงเรื่องการเรียนของลูก ก็เบาใจ
ไปได้ 1 เปลาะ แต่จะทำอย่างไรให้มันสมองอันมีค่าของน้องไม่เสียเปล่าเพราะปรับตัวอยู่ร่วมในสังคมไม่ได้
อยู่ที่ 2 มือของคุณแม่ค่ะ ดิฉันเชื่อว่าแม่ทุกคนทำได้ค่ะ เอาใจช่วยค่ะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 25 มิ.ย. 2012 9:10 am

ขอโทษค่ะ แก้คำผิด "คำถามเรื่องพฤติกรรม" ค่ะ ไม่ใช่ "คำตอบ"
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย เอดา » จันทร์ 25 มิ.ย. 2012 8:39 pm

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจค่ะ

ดิฉันคงยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับ FT เท่าไรนัก ขอโทษคุณหมอค่ะ ท่าทีและคำพูดที่แสดงออกมาเลยตรงข้ามกับสิ่งที่คุณหมอพยายามถ่ายทอด ดิฉันมีแต่เจตตนาที่ต้องการให้ลูกเรียนรู้พฤติกรรมใหม่ทดแทนพฤติกรรมเก่าที่ไม่สมควร คือการระบายความโกธรไปที่ผู้อื่น

เรื่องอื่นๆ ดิฉันไม่กังวลเพราะดิฉันยอมรับในความต่างของคนได้ไม่มากก็น้อย กว่าสิบสี่ปีดิฉันต้องเรียนรู้ในท่าทีของคนใกล้ตัวด้วยการยอมรับในความต่าง และเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันด้วยใจที่เป็นกลาง ทำได้บ้างทำไม่ได้บ้างค่ะ ทุกข์ที่ดิฉันเคยผ่านมาทำให้ใจยอมรับความจริงได้บ้างว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นทุกข์ ไม่มีอะไรที่ควบคุมได้แม้แต่ใจตนเอง (เมื่อสติไม่เกิด) และทุกอย่างเกิดขึ้นก็ดับไป (อยู่ไม่นาน) เพราะฉนั้นเรื่องการคาดหวังในท่าที มารยาท พฤติกรรมต่างๆ ของลูกนั้นเมื่อถึงเวลาที่ใช่ ทุกอย่างจะเป็นไปตามกลไกที่ลูกได้เรียนรู้ หน้าที่ดิฉันแค่เรียนรู้ไปกับลูก (ที่บอกเรียนรู้ไปด้วยกันนั้น เพราะบางครั้งลูกก็สอนอะไรในมุมที่เรานึกไม่ถึงเช่นกัน) และยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น ได้แค่ไหนก็แค่นั้น แค่ทำเต็มที่กับทุกเรื่อง

[size=150]ขณะนี้สิ่งที่ต้องการมากคือ การช่วยให้ลูกลดพฤติกรรมที่โกธรง่าย และ ระบายความโกธรไปยังเพื่อนๆ ได้อย่างไร [/size]

ดิฉันได้เคยพูดคุย อธิบาย จำกัดเวลา (time out) และฝึก ในการรู้อารมณ์ตนเอง โดยให้กอดอกเวลารู้ว่าโกธร แต่เหมือนน้องจะห้ามการกระทำไม่อยู่ ระดับความโกธรเร็วมาก ประมาณว่า 1-2 ปริ๊ดไป 10 ทันที และเมื่อไม่ได้ระบายอารมณ์ขณะนั้น ความโกรธยังครุกกรุ่นอยู่ จึงไประบายอีกทีเมื่อสบโอกาส บางครั้งไประบายกับคนที่ไม่รู้เรื่องเช่นเพื่อนคนนี้ไม่ได้ทำให้โกธรแต่ไปทำเค้าเพราะรู้ว่าเค้าไม่ทำกลับ คุณแม่ไม่ได้จับผิดลูก แต่เมื่อไรที่เราเบียดเบียนตนเองหรือผู้อื่น พฤติกรรมนั้นย่อมไม่เป็นที่ยอมรับ การโกธรและระบายความโกธรนั้นมีทุกวันค่ะ

เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา เห็นเหมือนกันที่มีเด็กคนอื่นๆ ไปยุ่งกับลูกมากๆ (บางทีน้องจะทำตัววุ่นๆ ไม่ได้ทำตามคำสั่ง) ก็จะมีเพื่อนๆ มาคอยบอกคอยสั่ง น้องก็จะรำคาญและจะเดินหนี แต่เมื่อเพื่อนไปคุกคามน้องมากๆ เช่นดึงเสื้อพาไปเข้ากลุ่ม น้องไม่ทำตาม แต่เมื่อสบโอกาสก็จะไปทำคืน เช่นไปดึงเสื้อคนนั้นบ้าง ดิฉันเคยบอกและชี้ให้พ่อเค้าดูซึ่งพ่อก็บอกว่า ไม่เป็นไร น้องแค่เอาคืน (คุณแม่ก็มึนว่าทำไมถึงต้องเอาคืน หรือน้องไม่เข้าใจว่าคนนั้นเค้าเรียก ไม่ได้แกล้งหรือคุกคาม)

พยายามวิเคราะห์ค่ะว่า ที่ผ่านมาน้องถูกเพื่อนฟ้องครูบ่อย ทั้งวันค่ะ ซึ่งตอนนี้ยังไม่แสดงออกเกี่ยวกับอาการไม่สบอารมณ์อะไร แต่เมื่อทั้งครูโรงเรียนและเพื่อนกระตุ้นบ่อยเข้าคงทำให้ความเป็นปกติกลายเป็นไม่ปกติหรือเปล่าค่ะ เรื่องที่ฟ้องก็คงเป็นเพราะน้องไม่นิ่งเมื่ออยู่ในห้องเรียน จะเดินเมื่อการเรียนการสอนไม่น่าสนใจ คุณแม่คิดว่าหรือเมื่อมีอะไรกระตุ้นความสนใจความสนใจน้องก็จะไปสนใจสิ่งนั้น (ขอให้ครูย้ายน้องไปนั่งหลังห้องที่ไม่ใกล้แอร์ ประตู หน้าต่าง และไม่อยากให้นั่งใกล้เพื่อนที่หยุกหยิกง่าย เพราะจะดึงความสนใจน้อง แต่ครูไม่ยอมค่ะ - แอบบ่นค่ะ)

โรงเรียนที่น้องเรียนเป็นอินเตอร์ระบบอังกฤษ เน้นความเป็นหุ่นยนต์ (ขอโทษค่ะแขวะนิดๆ) มารยาท พฤติกรรมที่ดีงาม ซึ่งไม่ใช่น้องเลยค่ะ เท่าที่สังเกตุน้องมีระบบการเรียนรู้ผ่าน การลงมือทำ (ยิ่งอะไรที่เกี่ยวกับกลไกจะไปอยู่แถวนั้น) การรับรู้ทางตา การอ่าน (น้องอ่านหนังสือหมดห้องสมุดแล้วค่ะ) โรงเรียนได้จัดน้องในกลุ่ม Gifted ฉลาดทางด้านภาษา น้องจะไม่ชอบการเขียน ซึ่งน้องบ่นว่าเมื่อยมือ และค่อนข้างกดน้ำหนักค่อนข้างแรง ทางโรงเรียนไม่ค่อยชอบเท่าไรเวลาคุณแม่ให้น้องทำ Mind Map แทนการเขียน

วันนี้น้องบ่นว่าไม่อยากไปโรงเรียนนี้แล้ว ค่อนข้างงงค่ะ เพราะน้องไม่เคยแสดงออกมาก่อนว่าไม่อยากไปโรงเรียน หรือเป็นเพราะดิฉันได้ใช้ Time Out กับน้องที่โรงเรียนทำให้น้องเชื่อมโยงว่าเป็นเพราะโรงเรียนทำให้เค้าถูกทำโทษ

วันก่อนน้องตีคุณแม่และคุณแม่บอกโกธรไม่อยากเล่นด้วยแล้ว น้องขอโทษ คุณแม่ถามว่าขอโทษเรื่องอะไรรู้ไม๊ น้องบอกว่าขอโทษที่ทำให้คุณแม่โกธร คุณแม่เลยอธิบายว่าที่ให้ขอโทษไม่ใช่ว่าหนูทำคุณแม่โกธรแต่ขอโทษที่ตีคุณแม่ (อธิบายถูกไม๊ค่ะ งงเองเหมือนกันบางที)
วันนี้น้องก็กระโดดเอาศอกทุบคุณพ่อที่หลังตอนหยิบของบนพื้นให้ คุณพ่อโกธรแต่ไม่ได้ต่อว่า ได้แต่เดินหนี (คงทำอะไรไม่ถูก)

น้องชอบเล่นรุนแรงทั้งกับเพื่อนและพ่อแม่ พฤติกรรมนี้ทำเอาเหนื่อยและเจ็บตัวบ่อยๆ ดิฉันจำได้ว่าในหนังสือที่ครูพบเขียน "พฤติกรรมใดที่ทำแล้วได้รับผลที่พึงใจ พฤติกรรมนั้นก็จะคงอยู่" ดิฉันยังไม่เข้าใจว่าพฤติกรรมใดที่จะมาทดแทนพฤติกรรมการแสดงความก้าวร้าวนี้ได้ค่ะ (ดิฉันสังเกตุว่าเพื่อนๆ ที่โรงเรียนหลายคนก็เล่นรุนแรง และช่วงนี้เหมือนจะเล่นมวยปล้ำ)

ดิฉันฝากความหวังไปยังคุณหมอและคุณแม่ผู้มีประสบการณ์ในการให้คำแนะนำ เพื่อที่ดิฉันจะได้ฝึกและช่วยให้น้องมีพฤติกรรมที่เหมาะสมแทนพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมค่ะ

เอดา
เอดา
 
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 24 มิ.ย. 2012 10:21 am

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » อังคาร 26 มิ.ย. 2012 7:27 am

การทำฟลอร์ไทม์ ไม่ได้ตั้งเป้าหมายว่า ไม่ให้โกรธ หรือโกรธ แต่พอดี ๆ และมีพฤติกรรมที่เหมาะสมเวลาโกรธ

แต่เน้นความเข้าใจว่า

ในภาวะโกรธ สมองจะทำงานได้ยากกว่าปกติ ทั้งเรื่อง การสงบตน การสื่อสาร และการคิด

ฟลอร์ไทม์เน้น การคิด....โดยอาศัยการสื่อสารระหว่างคนกับคนเป็นตัวนำพา ทั้งในเวลาปกติ และในเวลาโกรธ

และการสื่อสารระหว่างคน อาศัยการสื่อสารด้วยภาษากายเป็นหลัก เมื่อใดที่คำพูดกับภาษากายไม่ตรงกัน คนเราจะเชื่อภาษากาย

หน้าที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของภาษากาย คือเป็นระบบหน่วงอารมณ์ เพื่อให้อารมณ์ไม่พุ่งขั้นสูง จะกระทั่งบดบังความคิด

ดังนั้น...ในเรื่องลูกชายของคุณแม่

ความบกพร่องหลักของเขาอยู่ที่การรับส่งภาษากาย

บ่อยครั้งที่เขาอ่านเจตนาคนอื่นผิด บ่อยครั้งที่เพื่อนอ่านอารมณ์ของเขาไม่ทัน เพราะระบบ fine tune ของเขามีปัญหา เขาไม่มี scale 3-4-5-6-7-8 เขามี 1-2 แล้วข้ามไป 9-10 เลย

การแก้ปัญหา ต้องแก้ที่ต้นตอ คุณแม่ต้องพัฒนาการสื่อสารด้วยภาษากายในบ้าน และทำความเข้าใจใหม่ในคำว่า "อัจฉริยภาพทางภาษา" อัจฉริยภาพทางภาษา จะเป็น "นาย" ของภาษา รู้วิธีพลิกแพลงการใช้ภาษา เพื่อประโยชน์แห่งตน เพื่อแก้ปัญหาแห่งตน

เรื่องที่สอง คือการพัฒนาระบบควบคุมและวางแผนสั่งการกล้ามเนื้อขึ้นมา ให้พร้อมใช้งาน ทักษะเหล่านี้ใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี

หากควบคุมการใช้งานในอารมณ์ปกคิยังไม่ได้ดี อย่าเพิ่งหวังว่าจะควบคุมได้ในอารมณ์โกรธ

เรื่องที่ 3 ที่จะต้องปรับ คือ ระบบรับความรู้สึกของเขา

แต่ทั้งหมดนี้ เรื่องที่ยากที่สุด คือ ความเข้าใจ และทัศนคติของคนรอบข้าง

ตอนนี้ ปัญหาในห้องเรียนมันรุมเร้า มันกินพลังงานของคุณแม่ในการตามล้างตามเช็ดปัญหาที่เกิดขึ้นรายวัน ไปหมดแล้ว

ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า จะต้องทำอย่างไรที่จะช่วยคุณแม่ได้มากว่านี้

คุณแม่ว่าคุณแม่เข้าใจหลักการ อยากขอแค่เทคนิค........

คำตอบ คือ เรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องเทคนิค

สำหรับดิฉัน เคยบอกกล่าวไว้หลายครั้ง ว่าดิฉันหนักใจกับปัญหา Asperger มากว่า autistic

กว่าจะนำพาผู้ปกครองฝ่าด่านแต่ละด่านได้....ยากเหลือเกิน เพราะภาพลวงตาของ Asperger มีมากมาย

ปัญหาของ Asperger มันเหมือนยอดภูเขาน้ำแข็ง

ไม่ชัดเจน ไม่จะแจ้ง แบบ Autitic

ก็ต้องขออภัยด้วยจริง ๆ ที่ดิฉันไม่ทราบวิธีที่จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้กับคุณแม่ได้

ดิฉันทราบแต่การแก้ปัญหาระยะยาวค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย กิ่งแก้ว เมื่อ อังคาร 26 มิ.ย. 2012 8:03 am, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » อังคาร 26 มิ.ย. 2012 7:41 am

รบกวน "คุณแม่น้องหนึ่ง" ช่วยให้ความเห็นด้วยนะคะ เข้าใจว่าคุณแม่น้องหนึ่งไม่ได้เข้าเว็ปบ่อย ๆ ใครทราบนามแฝงของน้อง ช่วยแจ้งคุณแม่ด้วยค่ะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย เอดา » อังคาร 26 มิ.ย. 2012 8:17 am

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ เหมือนคุณหมอให้ทางสว่างแก่ดิฉัน

ดิฉันจะไปเข้าร่วมสัมมานาและจะขอนัดครูหยกและครูพบตามคำแนะนำ

คุณหมอค่ะ ถ้าดิฉันอยากได้หนังสือเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับ FT เข้าไปสั่งได้ที่ไหนค่ะ คุณพ่อน้องไม่ใช่คนไทยค่ะ

ขอบคุณมากมาก อย่างสุดหัวใจที่คุณหมอกรุณาแนะนำ

"ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำไม่ได้ ถ้าทำอย่างที่สุด"

ขอบคุณค่ะ
เอดา คุณแม่มิติที่หก
เอดา
 
โพสต์: 9
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ 24 มิ.ย. 2012 10:21 am

Re: ปร๊กษาการเข้าอบรมค่ะ

โพสต์โดย สายป่าน » อังคาร 26 มิ.ย. 2012 10:20 am

ดิฉันขอมาเทียบเคียงกับเรื่องราวของลูกนะคะ
อาจจะเทียบเคียงไม่ได้มากนัก เพราะอายุที่ต่างกัน ตอนนี้น้องจะ 6 ขวบแล้ว
เมื่อสัก 2 ปีก่อน ลูกดิฉันแสดงให้คนอื่นรู้ว่าเขาโกรธ
เมื่ออารมณ์อยู่ที่สัก 9-10 เลย เห็นอารมณ์ตอน 1-2 ซึ่งคืออารมณ์ดี แล้วปรี๊ดเลย
คนรอบข้างรับมือไม่ถูก ช่วงที่อารมณ์ออก เหมือนคนก้าวร้าว อารมณ์แรง
เคยเดินจากห้องนั่งเล่น เข้าครัว แล้วเปิดประตูออกไปครัวนอก คว้ามีดมาจะไล่แทงผู้ใหญ่
ที่อธิบายภาพนี้ เพื่อให้เห็นว่า ไม่ใช่มีดอยู่ใกล้มือเขาในขณะนั้น
แต่เมื่ออารมณ์ขึ้น แล้วเขาไม่รู้จักการระบายออก ก่อนที่มันจะระเบิด มันก็แรง
แล้วก็เดี๋ยวๆ ก็โกรธ เดี๋ยวก็โมโห ปลอบกันยาก เพราะตอนนั้นคงโกรธมากจนหูอื้อไปแล้ว
แต่ต่อมาเมื่อเขา เริ่มจับความรู้สึกเขาได้ รู้ว่าขณะนั้นเขารู้สึกอย่างไร
รู้จักที่จะหาคนที่ระบาย บ่น ปล่อยอารมณ์ออกตอนเล่นสมมติ
ดูว่าทุกอย่างก็จะดีขึ้น ไม่มาทุบตียาย เวลาโกรธ หรือร้องโวยวายจนปลอบไม่ได้
ดิฉันเล่าไม่ถูกว่าเหตุการณ์มันดีขึ้นอย่างไร ใช้เทคนิคอย่างไร
ทราบแต่ว่าเมื่อเขาสามารถทันอารมณ์เขา เขาสามารถระบายออกได้ก่อนที่จะปรี๊ด
เหตุการณ์มันก็ค่อยๆดีขึ้นเอง
ดิฉันไม่ห้ามเขาโกรธ แต่โกรธให้มาคุยกับแม่ก่อน มาบ่นกันได้
แม่อาจจะดักคอก่อน ว่าตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ รู้สึกอย่างไร มาคุยกันไหม
เออ โกรธเนอะ มันเป็นอย่างไรล่ะ เกิดอะไรขึ้นเหรอ อือ มันน่าโกรธจริงๆด้วยแหละ ทำไงกันดี
โกรธได้แต่ถ้าไปทำร้ายคนอื่น ก็ต้องถูกงดของชอบ อารมณ์ดีมาคุยกันใหม่
เล่นสมมติ แอบเติม แอบคุยเหตุการณ์คล้ายๆกับที่เพิ่งโกรธมา
หากยังอยากปรี๊ด อยากทำร้าย ก็ตัวละครทำกันในสมมติ
ทั้งหมดนี้คือที่ทำมาค่ะ
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ



cron