กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย kroopob » อาทิตย์ 24 มิ.ย. 2012 1:13 pm

ชอบที่แบ่งปันมา
kroopob
 
โพสต์: 61
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 1:42 pm

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 25 มิ.ย. 2012 2:21 pm

สวัสดีค่ะทุกๆ ท่าน
ผ่านไปแล้ว 20 วันหลังกลับมาจากค่าย ดิฉันพบคำตอบของโจทย์ยากอีกโจทย์สำหรับตัวเองแล้ว
นั่นคือการเพียรพยายามดึงใจออกจากการ "ตกร่องความเคยชินเดิมๆ" ให้ได้ในแต่ละสถานการณ์ ดึงใจออกให้ได้
ด้วยเวลาที่น้อยลงเรื่อยๆ ดิฉันคิดว่าคงเป็นกระบวนการฝึกจิต ฝึกสติให้เข้มแข็ง โดยหวังว่าดิฉันจะสามารถเดินไปถึงจุด
ที่ตัวเองจะควบคุมอารมณ์ความคาดหวังที่มีต่อลูกๆ ให้ได้เป็นระยะเวลานานขึ้นๆ ในทุกๆ สถานการณ์ที่พบเจอในแต่ละวัน
เพราะดิฉันค้นพบแล้วว่าการ "ตกร่องความเคยชินเดิมๆ" นั้น นำมาซึ่งความเจ็บปวดของทั้งตัวดิฉันเองและตัวลูก
สำหรับดิฉันคือการรู้สึกผิดรุนแรงและกล่าวโทษตัวเอง สำหรับลูกคงเป็นการสูญเสียความมั่นใจในตัวเองที่ดิฉัน
เองเพียงพยายามหาทางให้เกิดขึ้นแก่ลูกมากที่สุด น่าขันที่ตัวดิฉันเองรับบทบาทเป็นทั้งผู้สร้างและผู้ทำลายในคราวเดียวกัน
ถ้วยอารมณ์ (ขออนุญาตนำคำครูพบมาใช้นะคะ) ของดิฉันเองคงยังไม่แข็งแรงมากเพียงพอ น้ำที่เต็มปริ่มใน
บางวันจึงระเหยออกไปด้วยความพลั้งเผลอหรืออาจรั่วออกไปตามรูโหว่ต่างๆ เมื่อได้คิดวิเคราะห์ ดิฉันจึงเริ่มที่จะ
อุดรูโหว่รูใหญ่ของตัวเอง และเพียรเติมน้ำให้เต็มอยู่เสมอ
สถานการณ์สอนบทเรียน แม้เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ดิฉันเริ่มตกร่อง ความคาดหวังเริ่มก่อตัว สติเริ่มหลุด ภาษากายเริ่ม
หยาบกระด้าง กิริยาท่าทาง สีหน้าแววตา น้ำเสียงเริ่มแปรเปลี่ยนจากแม่ผู้ใจดีกลายเป็นนางยักษ์ในบัดดล สิ่งที่ดิฉัน
ต้องรีบทำคือการดึงเอาสติกลับคืนมาเพื่อขับไล่ความคาดหวังให้ออกไป โดยคาดหวังให้ใช้เวลาให้สั้นที่สุดจนกระทั่ง
ลูกจะจับมันไม่ทัน หรือจะไม่เกิดขึ้นเลยในจิตใจ ในกรณีหลังนี้ดิฉันเองไม่มีความมั่นใจเลยค่ะว่าจะทำได้
เพราะเมื่อทำได้ ดิฉันจะได้พบกับของกำนัลเป็นน้ำทิพย์ชโลมใจจากลูกทุกครั้ง ซึ่งเป็นกำลังใจให้ดิฉันพยายามก้าว
ข้ามความเคยชินเดิมให้ได้ในทุกๆ ครั้ง...ร่ำไป
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย สายป่าน » จันทร์ 25 มิ.ย. 2012 4:12 pm

แวะมาแหย่ค่ะ อย่าโกรธกันนะคะ
ระวังอย่าให้เป็นการกดดันตัวเองที่จะไม่ให้คาดหวังนะคะ
ประมาณว่า ฉันจะไม่คาดหวัง ฉันจะไม่คาดหวัง ฉันจะไม่คาดหวัง
เอาน่า เชื่อว่าคุณ krongkran เอาอยู่
จะค่อยๆ ต้วมเตี้ยม ตามไปนะคะ
เพราะดิฉันเองยังตกร่องอยู่บ่อยไป (น่าจะตกเป็นประจำกระมัง)
หลายครั้งที่เราตกหลุมแปลงร่าง เป็นนางยักษ์
เพราะสถานการณ์จบลงเร็วสำหรับเรา ค่อนข้างได้ผลตามที่เราอยากได้
เช่น ดุ แล้วลูกยอมทำตามอย่างรวดเร็ว เสียงดังแล้วเลิกต่อรอง
ก็เลยเป็นหลุมที่เราตกบ่อย แต่ยังดีนะคะ คุณ krongkran ยังรู้ทัน มีสติ
แล้วสักวันคุณก็ต้องผ่านไปได้ เหมือนอีกหลายๆเรื่อง
สู้ๆ ค่ะ
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 25 มิ.ย. 2012 4:21 pm

หื๊ย อย่าเรียกว่าต๊วมเตี๊ยมตามเลยค่ะ เอาเป็นว่าไปด้วยกันดีกว่า ได้มั่งไม่ได้มั่งก็ว่ากันไป ทำได้ตลอด ดิฉันว่าคงอรหันต์ เหอะ เหอะ เหอะ
แค่หวังว่ารังสีแห่งนางฟ้าผู้ใจดีจะสามารถบดบังอานุภาพรุนแรงของนางยักษ์ได้บ้าง แค่ทำให้ได้มากขึ้นเรื่อยๆ ก็แค่นั้นเองค่ะ ไม่คาดหวังเยอะ
แต่รู้แหละว่าวันไหนทำไม่ได้ก็เสียโอกาสการเรียนรู้ของลูกไป ก็เอาใหม่ ไม่เป็นไร อ้อ อีกอย่าง ดิฉันเริ่มกลัวตัวเองจะตายก่อนลูกจะอยู่ตัวน่ะค่ะ
ความคิดนี้มันเลยแวบเข้ามา เลยคงอยากเร่งอยากรีบกระมังคะ ประมาณว่าเยอะน่ะค่ะ ตัวดิฉันเองน่ะ ไวความรู้สึกตัวแม่เลยล่ะ 55555
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » จันทร์ 25 มิ.ย. 2012 6:45 pm

ไม่เป็นไรหรอกกระมังคะ แม่เองก็มีได้หลาย version

ระวังจะตกร่อง ความคาดหวังว่าตัวเองจะ "ไม่คาดหวัง" นะคะ

ได้ ก็ได้ ไม่ได้ ก็ไม่ได้ค่ะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย kroopob » จันทร์ 25 มิ.ย. 2012 11:04 pm

ไปค่่ายกัน ...

ค่าย"อยู่กับลูกให้สนุก(ต่อยอด)" 14-16 ก.ค.

และ

ค่าย"ดูแลผู้หล่อเลี้ยง" 1-5 ส.ค.
kroopob
 
โพสต์: 61
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 1:42 pm

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » อังคาร 26 มิ.ย. 2012 8:19 am

คงได้ไปค่ายเยียวยาแหละค่ะครูพบ ลงตัวที่สุด แล้วพบกันนะคะ น่าจะมีการบ้านไปส่งบ้างละน่า เอ้ะ หรือไม่มี 555
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย pongpaka » อังคาร 26 มิ.ย. 2012 12:07 pm

แม่น้องปุญ
ขอบคุณกระทู้นี้มากๆคะ ได้ข้อคิดอะไรมากมายหลายอย่าง จนดิฉันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และทำให้ดิฉันตั้งตารอว่าเมื่อไหร่ค่ายนี้จะเกิดขึ้นที่โคราช
pongpaka
 
โพสต์: 8
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ 30 พ.ค. 2012 4:36 pm

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย สายป่าน » พฤหัสฯ. 28 มิ.ย. 2012 2:00 pm

คุณ krongkran เคยรู้สึกแบบนี้เหมือนดิฉันบ้างไหมคะ
เมื่อเราเป็นผู้ฟังปัญหา เรื่องเล่าต่างๆ โดยไม่ได้คิดล่วงหน้า หรือเอาใจไปคาดเดาเรื่องราว
เราจะรับรู้เรื่องราว และมองเห็นมุมอีกหลายมุมที่ต่างไปจากเจ้าของเรื่อง
ได้เห็นมุมสวยงาม ในขณะที่เจ้าของเรื่องเห็นความทุกข์ คับข้องใจ
หลายครั้งที่เราจะได้เห็นทางออกของปัญหาของเราผ่านเรื่องราวที่ได้รับฟัง
ได้ทบทวนอีกหลายเหตุการณ์ของเรา ได้เห็นวันวานที่ผ่านมา
ทั้งที่อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกันเท่าไรเลย
ทำอย่างไร ที่เราจะวางใจของเราต่อเรื่องต่างๆที่มากระทบ
ได้เหมือนอย่างที่เราเป็นคนนอก ที่เห็นเหตุการณ์นั้น โดยไม่ได้ใส่ความคิดไปเองของเรา
ถ้าเราทำได้ ลูกของเราคงมีความสุข และให้เราเป็นส่วนหนึ่งที่ได้รับรู้เรื่องราวของเขาอย่างเต็มใจนะคะ
คงสักวัน ที่เราจะทำได้อย่างคงเส้นคงวา ไม่แกว่งไปมา จนเหนื่อยทั้งเราและลูก
อ้าว วันนี้แม่สายป่าน อารมณ์ไหนไม่รู้ แค่อยากแวะมาคุยค่ะ
คุณ krongkran เข้าใจไหมดิฉันไหมเนี่ย
ดิฉันยัง งง งง ตัวเองอยู่เหมือนกัน
:lol:
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » พฤหัสฯ. 28 มิ.ย. 2012 2:53 pm

รู้สึกสิคะคุณแม่สายป่าน เวลาที่ใครสักคนเล่าปัญหาของเขาให้เราฟัง เราจะรู้สึกว่าเราเห็นว่าปัญหานั้นไม่ได้หนักหนาอะไร
ถ้าเป็นเราคงไม่กังวลขนาดนั้น เพราะเราน่าจะ "เอาอยู่" แต่พอมาเป็นปัญหาของตัวเอง ทำไมจึงช่างหนักหนา
ทำไมจึงช่างน่ากังวล และน่ากลัวเหลือเกิน คงเป็นประมาณเศษผงเข้าตาเขี่ยเองไม่ออกกระมังคะ ประกอบกับเข้าตาคนขี้กลัวซะด้วย
แค่เศษผงเลยรู้สึกเหมือนเศษเหล็กผุเก่าเปื้อนสนิมที่พร้อมจะทำให้ตาบอดได้ในทันที
นี่คงเป็นเหตุผลที่ดิฉันเองอยากสื่อสารกับใครสัก(หลายๆ)คนที่เป็นดั่งกัลยาณมิตรในเรื่องลูก
ที่เราจะบอกเล่าเรื่องราวความรู้สึกอึดอัดคับข้องใจที่ไม่อาจเอื้อนเอ่ยกับใครแม้คนในครอบครัวได้อย่างสบายใจ
เพราะความเข้าใจและความรู้สึกเป็นพวกกันเนี่ย ช่างหอมหวานยิ่งนัก ที่สำคัญยังทำให้เราได้เห็นทางออกอย่างที่ไม่คิดว่า
จะได้เห็นด้วย เพียงแต่สำหรับดิฉันนั้น คงต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่านั่นคือปัญหา และที่ว่าเป็นปัญหาก็คงหนีไม่พ้น
เรื่องคงเส้นคงวาของอารมณ์ตัวเองนี่แหละค่ะ
ถึงตอนนี้ ดิฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะว่าคุณแม่สายป่านจะเข้าใจดิฉันไหมคะ อิอิอิ
ปล อยากจะยุคุณหมอให้เขียนหนังสือ "ก่อนจะเป็นพ่อแม่ฟลอร์ไทม์" เพื่อสอนพ่อแม่ให้เป็นคนเต็มคนและใช้ชีวิตให้เป็นก่อน
สักเล่มเหมือนกันนะคะ คงช่วยได้เยอะเลย
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ