กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » ศุกร์ 20 ก.ค. 2012 4:43 pm

คุณหมอคะ เมื่อวานนี้แม่ได้สอบถามความก้าวหน้าที่โรงเรียนของลูก และได้ข้อมูลมาดังนี้ค่ะ

พฤติกรรมการเรียน : ในชั้นเรียนน้องให้ความสนใจในเนื้อหาและเรื่องที่ครูสอน น้องฟังครู แต่มักมองไปในทางอื่นขณะฟัง
บางครั้งน้องเล่นและคุยกับเพื่อนบ้างขณะเรียน เมื่อคุณครูถามคำถามเกี่ยวกับเนื้อหา น้องเข้าใจและตอบคำถามได้
ในเรื่องของการเตรียมอุปกรณ์การเรียน น้องมักเตรียมไม่ครบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวิชาที่มีหนังสือหลายเล่ม
น้องจะเตรียมเพียงบางเล่มขึ้นมา คุณครูจะช่วยโดยคอยเตือนและเพื่อนที่นั่งข้างๆก็จะช่วยเตือนน้องเช่นกัน
ส่วนการทำงานแบบฝึกหัดนั้น คุณครูประจำวิชาต้องคอยเตือนให้น้องเริ่มทำ ซึ่งตามความจริงแล้วน้องสามารถทำได้
แต่จะไม่เริ่มลงมือทำเอง ต้องอาศัยการเตือนให้ลงมือทำจากคุณครู และมีบ้างบางครั้งที่น้องสามารถทำแบบฝึกหัดได้
อย่างรวดเร็วเร็วและว่องไว ส่วนเรื่องกิจกรรมในชั้นเรียนนั้นน้องให้ความร่วมมือปฏิบัติได้ดี เช่นการพูดหน้าชั้นเรียน
และการนำอ่านหน้าชั้นเรียน นอกเหนือจากนี้ น้องซักถามในสิ่งที่ตนเองสงสัยได้ โดยใช้คำถาม อะไร และทำไม

พฤติกรรมด้านสังคม : การพูดคุยกับคุณครู น้องพูดคุยได้ดี และตอบคำถามคุณครูด้วยประโยคที่ยาวมากขึ้น
ไม่เป็นคำๆ สั้นๆ ห้วนๆเหมือนช่วง Summer อย่างไรก็ตามน้องก็ยังพูดจาไม่ค่อยมีหางเสียง ต้องคอยเตือนให้พูดลงท้าย
ว่าครับจะได้สุภาพ น้องสามารถพูดและเล่าเรื่องเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนเองและเพื่อนๆได้ดีขึ้น เช่นเมื่อไม่นานมานี้
น้องxxxโดนมีดบาด เมื่อคุณครูถามน้องxxx น้องปุนที่นั่งข้างกันก็ตอบแทนน้องxxx และเล่าให้คุณครูฟังว่า
น้องxxxโดนมีดบาดมืออย่างไร ซึ่งโดยปกติน้องxxxจะเป็นคนชอบตอบคำถามแทนเพื่อนเสมอ แต่ครั้งนี้แย่งตอบไม่ทัน
และบางครั้งน้องปุนก็จะมีเรื่องมาเล่าให้คุณครูแต่ละท่านฟังบ้าง ตามความสนใจของน้อง สำหรับการพูดคุยกับเพื่อนๆ
น้องมีปฏิสัมพันธ์พูดคุยและเล่นกับเพื่อนๆมากขึ้น จากการสังเกต น้องเป็นเด็กอารมณ์ดี เล่นกับเพื่อนคุยหยอกล้อกัน
ยังไม่มีกรณีทะเลาะกันหรือโกรธกัน ในห้องเรียนบางครั้งน้องชอบทำให้เพื่อนสนุกสนานด้วยการทำเสียงแปลกๆ พอ
เพื่อนๆเฮฮา น้องก็จะยิ้มชอบใจ การแสดงออกต่างๆของน้องอยู่ในขอบเขตคือ รู้จักพอ รู้จักหยุดเมื่อถูกร้องขอ และไม่ดื้อรั้น
เพื่อนๆที่น้องมีปฏิสัมพันธ์ด้วยมากขึ้น คือน้อง... น้อง... น้อง... น้อง... และน้อง...

สิ่งที่แม่ประเมินได้จากข้อมูลนี้และข้อมูลรอบด้านของลูกคือ ระบบการรับรู้ความรู้สึกของลูกยังติดขัดอยู่ ลูกจึงยังไม่สามารถสงบจดจ่อได้ในทุกสถานการณ์
อันนี้ได้ข้อมูลประกอบจากการประเมิน SI ว่าลูกยังต้องได้รับการส่งเสริมทั้งระบบสัมผัส ระบบข้อต่อ และระบบการทรงตัว
แต่ลูกมีสัมพันธภาพกับเพื่อนนอกกลุ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่อาจจะยังอยู่ในระดับเด็กที่เล่นภาษาท่าทาง น้ำเสียง แต่ถ้า
เพื่อนที่ไปกลับด้วยกันทุกวัน ลูกสามารถพูดคุยสื่อสารไปมาได้เกิน 10 รอบการสนทนา แต่เมื่อเริ่มมีอารมณ์ด้านลบกับเพื่อน
ลูกมักจะยังหลบเลี่ยง และปฏิเสธการพูดคุยถึงเหตุการณ์นั้นๆ ลูกยังทนสีหน้าท่าทางในอารมณ์ด้านลบกับเพื่อนได้ไม่ดีนัก
ลูกเล่นสมมติได้หลากหลายขึ้น ยอมให้มีการตายบ้างบางครั้ง แต่ถ้าไม่ยอมให้ตายก็มีเหตุผลว่าถ้าตายไปแล้วเดี๋ยวลูกเหงา
แสดงถึงการที่ยังแยกเรื่องจริงกับสมมติไม่ได้ ลูกบอกเล่าเรื่องราวใน รร มากขึ้น โดยพูดบอกออกมาเอง รวมทั้งเล่าเรื่องในด้านลบ
ใน รร มากขึ้น แต่ยังปฏิเสธว่าสิ่งนั้นไม่ได้เกิดกับตัวลูกเอง แต่เกิดกับเพื่อน ตัวเองไม่เกี่ยว ลูกมีคำถามทำไมอยู่ตลอด
มีความมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่ยอมให้ใครช่วย ลูกเริ่มกล้าโกรธพี่ชายแรงๆ ล่าสุดโกรธขนาดเงื้อมมือตีพี่ ก็กำกับกันไป
แต่ดีใจที่เริ่มออกมาแล้ว เพื่อจะได้ไปต่อขั้นต่อไป ลูกรู้จักหาพวกเวลาโกรธแม่หรือพ่อ โดยจะชวนให้พ่อหรือแม่ไม่ต้องไปเล่น
กับอีกฝ่ายที่ลูกโกรธ และรู้จักหาเหตุผลอื่นๆ ให้กับเหตุการณ์ต่างๆ แต่ยังเปรียบเทียบได้ไม่เก่งนัก ลูกทะเลาะกับพ่อแม่ได้และ
"เถียงคำไม่ตกฟาก" แต่ลักษณะการเถียงอาจเป็นแบบ "แถๆ" อยู่ ลูกเล่นกับเพื่อนใหม่ได้ในเวลาไม่นานนัก และสามารถจดจ่อ
เล่นด้วยได้เป็นเวลานาน แต่การเล่นอาจยังเป็นแค่เล่นในสนามที่ยังไม่ได้รับรู้อารมณ์อะไรกันมากมายนัก ลูกดูมั่นใจมากขึ้น
กับชีวิตที่ รร ลูกกล้าออกไปตอบคำถามเวลามีกิจกรรมรวมเด็กทั้ง รร (เด็กประมาณ 300 คน) และมักได้รับรางวัล อาจเป็นเพราะ
ครูช่วยลุ้นและช่วยชงให้ลูกได้รับโอกาสด้วยก็เป็นได้ มักมีรุ่นพี่ผู้หญิงเข้ามาพูดคุยกับลูก เมื่อถามก็บอกว่าร้องเพลงให้พี่เค้าฟัง
พี่ชายมักกลับมาเล่าว่าครูภาษาอังกฤษชอบชมว่าลูกเก่ง และพูดถึงอยู่บ่อยๆ
ทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ดีขึ้นกว่าเดือนที่แล้วในทุกๆ ด้าน

คุณหมอเห็นเป็นอย่างไรบ้างคะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » ศุกร์ 20 ก.ค. 2012 4:47 pm

@ แม่สายป่านคิดมากไปค่ะ ดิฉันก็คงไม่สร้างสถานการณ์หรอกค่ะ ชีวิตปกติประจำวันก็มากพออยู่แล้วนา
จริงๆ มีประเด็นอยากแชร์ด้วย แต่ไว้สัปดาห์หน้าละกันนะคะ สัปดาห์นี้ดิฉันหมดเวลาตอบกระทู้แล้วค่ะ
ต้องไปทดลองปฏิบัติจริงเสาร์อาทิตย์ แล้วเดี๋ยวมาแชร์กัน
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » ศุกร์ 20 ก.ค. 2012 8:30 pm

คุณสายป่าน

คำว่าทดลองมีอารมณ์ หมายถึงเวทีเล่นสมมุติ ถึงแม้ว่าแนวทางนี้จะแนะนำให้เล่นตามอารมณ์เด็กไป แต่ต้องตรวจสอบดูด้วยว่าเด้กเล่นได้ทุกอารมณืหนือไม่ ถ้าไม่ ต้องขยายให้ออก เมื่อเขาทน มีสติ คิด และสื่อสารในเวทีจำลองนี้ได้แล้ว จึงจะก้าวขึ้นโจทย์ต่อไป คือ ชีวิตจริง ค่ะ

ไม่ได้หมายถึงในชีวิตจริงค่ะ ในชีวิตจริง แค่ดูแลอารมณ์ที่เกิดขึ้นจริง จากฝีมือคนรอบ ๆตัวเขา ก็เหนื่อยจะแย่แล้วค่ะ

หากไม่มีเวทีการเล่นสมมุติให้ การแสดงออกทางอารมณ์ก็จะติดค้างอยู่แค่ระดับพฤติกรรมค่ะ ต่อให้พูดได้ ก็เป็นการแสดงออกทางพฤติกรรมทางการพูดแค่นั้น จะไม่ขึ้นถึงการสื่อความหมายจริง ๆ (ตรงนี้เข้าใจยากนิดหนึ่งค่ะ)

คุณ Kronkan

เรื่องไม่นิ่งเวลาฟังครู นอกจากเรื่องไวเฉ์่อยความรู้สึกแล้ว กล้ามเนื้อที่ล้าง่าย และการไม่ถนัดในการฟังอะไรยาว ๆ ก็เป็นสาเหตุสำคัญ คือครูอาจจะบอกว่าพูดสั้นแล้ว แต่สำหรับเขา อาจจะยังยาวอยู่ค่ะ
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย สายป่าน » ศุกร์ 20 ก.ค. 2012 9:17 pm

ลูกเริ่มกล้าโกรธพี่ชายแรงๆ ล่าสุดโกรธขนาดเงื้อมมือตีพี่ ก็กำกับกันไป
แต่ดีใจที่เริ่มออกมาแล้ว เพื่อจะได้ไปต่อขั้นต่อไป

ตรงนี้ล่ะค่ะ ที่งง คือ มีปัญหาคล้ายกัน หรือไม่คล้ายก็ไม่แน่ใจ
คือ สายป่านโกรธแม่ แล้วมีการโผเข้าทำร้ายแม่ ซึ่งไม่เคยทำร้ายกันมานานแล้ว
เป็นปีกว่าแล้ว นับจากเริ่มบอกได้ว่าโกรธแล้วนะ โกรธมาก โกรธ 10 9 8
ในความเข้าใจคือ เมื่อสามารถใช้สัญญลักษณ์ ได้แล้ว พฤติกรรมควรลดลง
แล้วจู่ๆกลับมามีอีก เลยงงค่ะ เพิ่งกลับมาใช้พฤติกรรม สักในช่วง 2-3 เดือนนี้ค่ะ
ถามว่าทำไม ก็ตอบว่า เพราะโกรธแม่มากไง เลยอยากให้แม่เจ็บ
แปลว่าตอนนี้ถอยหลังใช่ไหมคะ เพราะกลับมาใช้พฤติกรรม
สายป่าน
 
โพสต์: 130
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 11:22 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย kroopob » ศุกร์ 20 ก.ค. 2012 10:52 pm

คุณสายป่าน..

ถ้าเขายังพัฒนาได้ไม่ถึงขั้นใช้เหตุผลเพื่อแก้ปัญหาต้นเหตุที่ทำให้เกิดอารมณ์โกรธ
ถ้าเขายังไม่ชำนาญในการใช้จินตนาการเพื่อผ่อนบรรเทาความโกรธ
ความโกรธนั้นก็จะเหลือเพียงช่องทางเดียวในการบรรเทาความโกรธ คือมุ่งกระทำตรงๆ กับผู้เป็นสาเหตุให้โกรธ

แม้จะพูดบอกได้ แต่ถ้าไม่มีเครื่องมือที่ใช้งานได้ผลในการผ่อนบรรเทาความโกรธของตนเอง คนคนนั้นก็จะยังโกรธอยู่อย่างนั้นนั่นแหละ

ใช้เหตุผลแก้ไม่ได้
ใช้จินตนาการไม่ได้
ก็เหลือแค่ ตี ทำร้าย กับ ร้องไห้ชักดิ้นชักงอ
kroopob
 
โพสต์: 61
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 1:42 pm

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 30 ก.ค. 2012 11:12 am

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาไปดิฉันได้มีโอกาสไปร่วมสนทนาครอบครัวฟลอร์ไทม์เรื่อง "เพื่อน โรงเรียน และครู"มาค่ะ
ได้อะไรมาบ้าง อืม ได้ทำงานกับตัวเองเยอะขึ้นค่ะ แล้วก็เริ่มมีคำพูดกับตัวเองว่า "ถ้าอยากบินสูง ต้องยิ่งลงลึกในใจตน"
คงเพราะ 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ ดิฉันทำงานกับลูกเยอะเหลือเกิน แต่ทำไมใจของตัวเองจึงวุ่นวาย สับสน กังวล จนได้
เริ่มรู้ว่าตัวเองทำงานกับตัวเองน้อยเกินไป และมีปัญหาการจัดการอารมณ์ของตัวเอง สิ่งที่ทำมาจึงเหมือนทำเต็มเวลา
แต่คุณภาพที่ได้นั้นแปรผันไปตามอารมณ์ในแต่ละช่วงเวลานั้นของดิฉันเอง ขึ้นบ้าง ลงบ้าง แกว่งไปตามทิศทางอารมณ์
ของตัวเอง คงเพราะต้นทุนทางอารมณ์ของดิฉันนั้นต่ำเกินไป ถึงตอนนี้ดิฉันรู้แล้วว่าปัญหาของการทำ FT ของดิฉัน
คืออะไร และก็อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นแล้ว ความรู้สึกนี้ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลังกลับจากค่ายแรกเมื่อต้นเดือนมิถุนายน
และชัดเจนขึ้นอีกหลังกลับจากค่ายเดือนกรกฎาคม และยิ่งชัดขึ้นอีกหลังกลับจากเวทีสนทนาครอบครัวฟลอร์ไทม์เมื่อ
วันเสาร์ที่ผ่านมา จริงๆ แล้วหลังกลับจากค่ายเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม ดิฉันสับสนกับตัวเองมาก อารมณ์แปรปรวนจน
กลัวและไม่กล้าที่จะยอมรับความรู้สึกที่เกิดขึ้นจากการยอมรับของตัวเองจริงๆ ใจหนึ่งก็รู้สึกดีที่ได้ยอมรับ แต่อีกใจกลับ
กลัวและติงตัวเองว่าสิ่งนั้นไม่ดีไม่เหมาะสมตามแบบแผนที่ตัวเองเคยคิดเคยปฏิบัติมา วุ่นวายอยู่อย่างนี้จนคนใกล้ตัวติง
มาว่าดิฉันใช้เวลากับเรื่องพวกนี้มากเกินไปหรือเปล่า ดิฉันจึงสงบมากขึ้น และก้มหน้าก้มตาทำต่อ แต่ในใจดิฉันรู้ว่า
"สิ่งนั้น"ยังอยู่ ยังไม่หายไปไหน แค่รอเวลาที่ดิฉันจะกวนมันขึ้นมาอีกครั้ง แต่หลังจากสงบดิฉันกลับพบว่าการทำ FT
ของดิฉันกับลูกนั้น แม้จะไม่ได้ทำแบบสุดลิ่มทิ่มประตูแบบทุกลมหายใจเข้าออก แต่ทุกครั้งที่ได้ใช้เวลากับลูก ดิฉัน
พบว่าดิฉันสบายใจ และลูกก็สบายใจ ดิฉันไม่กดดันตัวเองมากเหมือนเมื่อก่อน ความคาดหวังที่มีต่อลูกลดน้อยลงอย่าง
ที่ดิฉันเองก็แปลกใจ แม้ว่าจะยังไม่ได้แบบเต็มร้อยคงที่ แต่ก็เป็นแนวโน้มที่ดีขึ้นที่ดิฉันพอใจ ดิฉันกลับพบว่าดิฉันเห็น
ความก้าวหน้าของลูกเพิ่มขึ้นทุกวัน นัยน์ตาของดิฉันคงใสขึ้นนั่นเอง จนถึงเมื่อวันเสาร์ที่มีโอกาสได้แชร์ความรู้สึกกัน
ดิฉันเห็นตัวเองชัดขึ้น และตัดสินใจที่จะค้นหาสิ่งที่อยู่ภายในใจลึกๆ ของดิฉันอย่างจริงจังสักครั้ง แล้วลองดูสิว่าจะเกิด
อะไรขึ้นหลังจากนั้น เพราะหากคิดย้อนกลับไปแล้ว ดิฉันเองตั้งมั่นอยู่ในเส้นทางนี้ตั้งแต่แรกที่พบเจอ ไม่เคยว่อกแว่ก
ไปในเส้นทางไหนอื่นอีกเลย เหตุใดความก้าวหน้าของลูกจึงยังน้อยนักในความรู้สึก ดิฉันเองก็มีความรู้เรื่อง FT ใน
ชนิดที่เรียกว่าพอใช้การได้ แล้วเกิดอะไรขึ้น ในวันนั้นครูแอนได้แชร์และพูดมาคำหนึ่งว่า การใช้ FT ต้องมีทั้ง
intellectual และ emotional ดิฉันได้คิดทันทีว่าดิฉันคงขาดอย่างหลังไปแน่นอน ถึงตอนนี้
ดิฉันจึงรู้สึกปลอดโปร่งที่เริ่มรู้แล้วว่าแนวทางที่ตัวเองควรทำจะเป็นเช่นไร แต่ก็อดกังวลไม่ได้ว่าเมื่อได้ลงไปเวียนว่าย
ในใจตัวเองแล้ว ดิฉันจะพบเจอกับอะไร แล้วดิฉันจะจัดการกับสิ่งนั้นอย่างไร แต่ดิฉันไม่กลัวค่ะ คงด้วยพลังจากคนใกล้
ตัวที่เริ่มมองเห็นอะไรๆ ในตัวดิฉันจริงๆ จากการเข้าร่วมสนทนา และคงเริ่มเห็นแล้วละว่าสิ่งนั้นคืออุปสรรคจริงๆ และ
อนาคตของลูกๆ ที่รอดิฉันอยู่ เพราะดิฉันเองก็มองเห็นตัวเองในตัวลูกๆ แต่ละคนเหมือนกัน และดิฉันอยากจะช่วยให้
ลูกได้รู้ ได้คิดว่าจะจัดการกับสิ่งนั้นอย่างไรโดยเริ่มที่ตัวดิฉันเองก่อน ระยะเวลาจากนี้เป็นต้นไป จึงน่าจะเป็นช่วงเวลา
ที่ดิฉันตั้งใจมุ่งมั่นที่จะบินให้สูงแบบมั่นคงถาวร...เสียที
ขอบคุณคุณหมอ ครูพบ ครูปัทม์ ครูหน่อง ครูแอน ที่ช่วยแบ่งปันประสบการณ์ ความรู้ ความปรารถนาดี ขอบคุณครูนก
ที่เคยตกเป็นเหยื่อให้ดิฉันได้ระบาย อิอิ และร่วมแบ่งปันแนวคืดต่างๆ ให้ดิฉันได้เก็บมาคิด มาตกผลึกเพื่อก้าวเดินต่อ
ขอบคุณคนใกล้ตัวที่เป็นกำแพงให้พิงเสมอแม้จะไม่เข้าใจว่าดิฉันเป็นอะไร ขอบคุณลูกๆ ที่ทำให้ดิฉันได้เติบโต ขอบคุณ
ฟลอร์ไทม์ที่ทำให้ดิฉันได้รู้จักตัวเองมากยิ่งขึ้นและพบว่าดินแดนในใจดวงนี้น่ามหัศจรรย์และน่าค้นหาเช่นไร ขอบคุณ
เพื่อนร่วมทางและกัลยาณมิตรทุกท่าน ประสบการณ์ของทุกท่านมีค่ายิ่ง และดิฉันมั่นใจว่าเราเองต่างก็ต้องค้นหาความ
เป็นไปในใจของเราทุกคนเหมือนกัน เป็นกำลังใจให้ตัวเองและทุกๆ ท่านค่ะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย กิ่งแก้ว » จันทร์ 30 ก.ค. 2012 12:03 pm

ลองกลับไปอ่าน "พุทธธรรมกับการพัฒนาเด็กออทิสติก" อีกซักรอบ ดีมั๊ยคะ

ดูสิว่าจะพอมองเห็น จุดสมดุล ความพอดี ได้ดีขึ้นไหม...

แล้วก็ อีกสองประโยค ได้ ก็แปลว่า ได้ ไม่ได้ ก็แแปลว่า ไม่ได้ นะคะ

คาถาวันนี้ "หยวน ๆ" น่า
กิ่งแก้ว
 
โพสต์: 865
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ 07 ต.ค. 2011 6:48 pm

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 30 ก.ค. 2012 12:32 pm

ขอบคุณค่ะคุณหมอ
อย่าเพิ่งเหนื่อยกับลูกศิษย์คนนี้นะคะ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย krongkan » จันทร์ 30 ก.ค. 2012 1:06 pm

อืม...จะว่าไป จริงๆ ก็อยากเพิ่มคำๆ นี้ให้ชีวิตตัวเองเหมือนกันนะคะ

"หยวนๆ น่า"

"จะอะไรกันนักกันหนา ชีวิตเนี่ย"

"ช่างมันเถอะ"

ฯลฯ
krongkan
 
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 17 ต.ค. 2011 8:36 am

Re: กระทู้นี้... อยากแบ่งปัน

โพสต์โดย kroopob » จันทร์ 30 ก.ค. 2012 1:14 pm

เนอะ!
kroopob
 
โพสต์: 61
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ 10 ต.ค. 2011 1:42 pm

ย้อนกลับต่อไป

ย้อนกลับไปยัง ถาม-ตอบ